“การบินไทย” ยื่นศาลแก้แผนฟื้นฟู คาดสินเชื่อใหม่กู้จริงแค่ 1 หมื่นล้านบาท

“การบินไทย” ยื่นศาลแก้แผนฟื้นฟู คาดสินเชื่อใหม่กู้จริงแค่ 1 หมื่นล้านบาท

“การบินไทย” เตรียมยื่นศาลล้มละลาย ขอแก้แผนฟื้นฟู ต้นเดือนก.ค.นี้ ลดกรอบทุนใหม่เหลือ 2.5 หมื่นล้านบาท คาดกู้จริงแค่ 1 หมื่นล้านบาท หลังธุรกิจการบินเริ่มฟื้น ดันแคชโฟว์สะสมแตะ 1 หมื่นล้านบาท

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการมาครบ 1 ปี หลังจากศาลล้มละลายกลางเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2564 ซึ่งในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา ปรับแผนธุรกิจและเพิ่มรายได้ และทำให้มีความต้องการใช้แหล่งเงินใหม่ลดลงจาก 50,000 ล้านบาท เหลือ 25,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ การบินไทย จำเป็นต้องยื่นขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ โดยในแผนฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขจะเหลือเฉพาะแหล่งเงินกู้จากภาคเอกชน ซึ่งจะมาจากทั้งเจ้าหนี้ สถาบันการเงินเอกชน และการเพิ่มทุน

รายงานข่าวจากการบินไทย ระบุว่า การบินไทยเตรียมยื่นศาลล้มละลายกลางเพื่อแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการในช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ค.2565 เพื่อปรับรายละเอียดแผนจัดหาแหล่งทุนใหม่ โดยเมื่อยื่นเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์จะมีการนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการฉบับแก้ไขภายใน 30 วัน

ทั้งนี้ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการมีความมั่นใจว่าการยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้จะเป็นการยกระดับความเชื่อมั่นแก่เจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น ผู้โดยสาร ลูกค้า ต่อการฟื้นฟูกิจการของบริษัท และเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานเพื่อการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตเพื่อให้บริษัทเป็นสายการบินแห่งชาติเป็นสายการบินหลักที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศ และกำลังสำคัญในการสนับสนุนและขับเคลื่อนการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศ ในระยะเวลาอันใกล้นี้

นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการอีก 4 คน จะแถลงการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ และการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการครบ 1 ปี ในวันที่ 1 ก.ค.2565

คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการจึงได้ยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในวันนี้  (1 กรกฎาคม 2565) โดยมีรายละเอียดสาระสำคัญในการแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการในประเด็นต่างๆ ดังนี้

1.จัดหาสินเชื่อใหม่แบบสินเชื่อระยะยาว (Term Loan) ไม่เกิน 6 ปี และ/หรือตราสารหนี้ที่มีอายุการไถ่ถอนไม่น้อยกว่า 6 ปี เป็นจำนวนไม่เกิน 12,500 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัทยังได้เตรียมการจัดหาสินเชื่อหมุนเวียน (Revolving Facility) ในวงเงินไม่เกิน 12,500 ล้านบาทเผื่อไว้อีกด้วย

2.ดำเนินการเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวนประมาณ 31,500 ล้านหุ้น โดยมีเป้าหมายในการทำให้ส่วนทุนเป็นบวกเพื่อทำให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทมีความมั่นคงและเพื่อให้หลักทรัพย์ของบริษัทสามารถกลับไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกครั้ง ด้วยแนวทางต่อไปนี้

(ก) ให้สิทธิผู้สนับสนุนสินเชื่อใหม่มีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนในจำนวนเดียวกับจำนวนหนี้สินเชื่อใหม่ที่บริษัทเบิกใช้จริง (Drawdown Amount) เป็นจำนวนเงินประมาณ 12,500 ล้านบาท

(ข) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อชำระหนี้เดิมของเจ้าหนี้ทางการเงินตามแผนด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุน โดยกระทรวงการคลังซึ่งเป็นทั้งเจ้าหนี้ทางการเงินและผู้ถือหุ้นหลักเดิมจะได้รับชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เงินต้นทั้งจำนวนเป็นทุน ในขณะที่เจ้าหนี้ทางการเงินกลุ่มอื่น ๆ และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับชำระหนี้ด้วยการแปลงหนี้เงินต้นจำนวน ร้อยละ 24.5 เป็นทุน

โดยหนี้เงินต้นส่วนที่เหลือในอัตราร้อยละ 75.5 จะได้รับชำระหนี้จากกระแสเงินสดของการบินไทยตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแผนเดิม ซึ่งการแปลงหนี้เป็นทุนนี้จะทำให้การบินไทยสามารถมีส่วนทุนเพิ่มเติมและลดภาระหนี้ตามแผนลงได้ประมาณ 37,800 ล้านบาท 

(ค) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อร้องรับการใช้สิทธิแปลงหนี้ดอกเบี้ยตั้งพักตามแผนเป็นทุน  ที่ราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น ซึ่งทำให้การบินไทยอาจสามารถลดภาระการชำระหนี้ดอกเบี้ยตั้งพักไปได้ประมาณ 4,845 ล้านบาท

(ง) จัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ในราคาที่ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการเห็นสมควรและไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาทต่อหุ้น เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นเดิม และในกรณีที่ไม่มีผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน หรือผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เต็มจำนวน ให้นำหุ้นส่วนที่มาเสนอขายให้แก่พนักงานบริษัท และหรือบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งคาดว่าจะสามารถระดมทุนให้แก่การบินไทยเพิ่มเติมได้อีกประมาณ 25,000 ล้านบาท

รวมเป็นส่วนทุนที่คาดว่าจะได้รับจากการปรับโครงสร้างหนี้และโครงสร้างทุนตามข้อเสนอขอแก้ไขแผนประมาณ 80,000 ล้านบาทเศษ โดยการบินไทยคาดหมายว่าจะสามารถดำเนินการปรับโครงสร้างทุนข้างต้นให้แล้วเสร็จภายในปี 2567 ซึ่งหากการดำเนินการเป็นไปตามข้อเสนอข้อแก้ไขแผน ส่วนของทุนจะกลับมาเป็นบวกในปี 2567 และหลักทรัพย์ของบริษัทน่าจะสามารถกลับมาทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ในปี 2568

3.แก้ไขและเพิ่มเติมรายละเอียดการแผนการชำระหนี้ของเจ้าหนี้บางกลุ่ม เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อการปฏิบัติตาม และให้บริษัทมีความคล่องตัวในการดำเนินกิจการในภาวะที่อุตสาหกรรมการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิและการชำระหนี้ของเจ้าหนี้เดิมตามแผนฟื้นฟูกิจการฉบับปัจจุบัน

4.แก้ไขรายละเอียดในส่วนของผลสำเร็จของแผนฟื้นฟูกิจการ ส่วนที่ไม่มีความจำเป็นและไม่สอดคล้องกับบริบทและข้อเท็จจริงในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการมีความมั่นใจว่าการยื่นคำร้องขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้จะเป็นการยกระดับความเชื่อมั่นแก่เจ้าหนี้ ผู้ถือหุ้น ผู้โดยสาร ลูกค้า ต่อการฟื้นฟูกิจการของบริษัท และเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการวางรากฐานเพื่อการเติบโตและสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคตเพื่อให้บริษัทเป็นสายการบินแห่งชาติที่คนในชาติภาคภูมิใจ เป็นสายการบินหลักที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศ และกำลังสำคัญในการสนับสนุนและขับเคลื่อนการฟื้นตัวเศรษฐกิจของประเทศ ในระยะเวลาอันใกล้นี้

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร คณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การยื่นแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการครั้งนี้ ผู้บริหารแผนมีเป้าหมายลดกรอบจัดหาเงินทุนใหม่ และปรับรายละเอียดแผนฟื้นฟูให้ดีกว่าเดิม โดยเฉพาะการดูแลเจ้าหนี้ให้ครบทุกกลุ่ม และจะทำให้เจ้าหนี้ได้รับหนี้คืนเร็วขึ้น

แผนฟื้นฟูฉบับแก้ไขยังคงแผนการชำระหนี้ตามเดิม เช่นเดียวกับแผนจัดตั้งบริษัทลูกแยกมาจากหน่วยธุรกิจที่มีศักยภาพ ประกอบด้วย ครัวการบิน ศูนย์ซ่อมอากาศยาน ธุรกิจขนส่งสินค้า ตลอดจนแผนขายสินทรัพย์รองที่ไม่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจ เช่น อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ อากาศยานที่ปลดระวาง เป็นต้น

ขณะที่ความจำเป็นในการจัดหาเงินทุนใหม่ 25,000 ล้านบาท ยืนยันว่าเป็นเพียงการขออนุมัติกรอบวงเงินเท่านั้น โดยผู้บริหารแผนประเมินว่าการบินไทยอาจไม่จำเป็นต้องหาทุนใหม่สูงถึง 25,000 ล้านบาท เพราะยังมีแคชโฟว์สะสม และมีแนวโน้มที่รายได้จะเพิ่มมาต่อเนื่อง เบื้องต้นประเมินว่าอาจจำเป็นใช้เงินทุนใหม่ 10,000 ล้านบาทเท่านั้น และคาดว่าเริ่มเงินส่วนนี้ใช้ในปี 2566

สำหรับความจำเป็นของการใช้เงินทุนใหม่ในช่วงดังกล่าว เพราะการบินไทยมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และเป็นเครื่องมือการตลาดหารายได้ เช่น การพัฒนาช่องทางขายผ่านดิจิทัล การปรับปรุงบริการ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และการซ่อมบำรุงอากาศยาน โดยไม่นำทุนใหม่ไปจ่ายชดเชยพนักงานโครงการร่วมใจจาก เพราะค่าใช้จ่ายดังกล่าวทยอยจ่ายชดเชยแล้ว

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและสายบัญชี การบินไทย กล่าวว่า เงินทุนใหม่ 25,000 ล้านบาท ที่การบินไทยจะยื่นแก้ไขแผนฟื้นฟูนั้น ไม่ได้เป็นการเบิกเงินสดในครั้งเดียว แต่จะทยอยเบิกใช้ในส่วนที่จำเป็นราว 10,000 ล้านบาท ที่เหลือเป็นกรอบวงเงินเผื่อฉุกเฉินในอนาคต เป็นการบริหารความเสี่ยง เงินสำรองในการดำเนินธุรกิจ โดยที่ผ่านมาการบินไทยหารือการปรับแผนฟื้นฟูร่วมกับผู้ถือหุ้นแล้ว ซึ่งถึงกระทรวงการคลังมีสัญญาณสนับสนุนแผน

ส่วนแนวทางหาเงินทุนใหม่จะแบ่งออกเป็น 1.เพิ่มทุน ที่จะมาจาก 3 ส่วน ได้แก้ เจ้าหนี้เดิม ผู้ถือหุ้นเดิม และผู้ลงทุนใหม่ และ 2.แหล่งเงินใหม่ โดยรูปแบบของการจัดหาเงินทุนใหม่จะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้เดิม และผู้ถือหุ้นเดิม ที่จะมีความต้องการในการเพิ่มทุนมากน้อยแค่ไหน โดยหากมีเพียงพอในวงเงินที่การบินไทยต้องการแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องหาทุนจากกลุ่มใหม่

 

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์