สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์วันที่ 27 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2565

สรุปภาวะสินค้าเกษตรประจำสัปดาห์วันที่ 27  มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2565

ราคาสินค้าเกษตรสัปดาห์นี้ ข้าวโพด ถั่วเหลืองและปลาป่นทรงตัว ข้าวราคาลดลง สุกรและไก่เนื้อราคายืนแข็ง ไข่ไก่ราคายืนอ่อน

ข้าวโพด : ราคาทรงตัว

           ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์ สัปดาห์นี้ ยืนราคาที่หาบละ 777 บาท เนื่องจากช่วงนี้ยังมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนไม่มาก 

           ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2565 ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รอบส่งมอบเดือนกันยายน 2565 ราคาอยู่ที่ 664.0 เซนต์/บุชเชล ราคาปรับลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จากรายงานการเก็บเกี่ยวข้าวโพดบราซิลรุ่นสองอยู่ที่ 30% เร็วกว่าค่าเฉลี่ยและเร็วกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนข้าวโพดสหรัฐฯ ที่ถูกประเมินอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 3% มาอยู่ที่ 67% เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่ลดลงระหว่างสัปดาห์ ขณะที่ข้าวโพดสหรัฐฯ อยู่ในช่วงกำลังเจริญเติบโตจึงต้องการปริมาณน้ำฝนที่มากกว่าปกติ นอกจากนี้ตลาดยังคงติดตามรายงานพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดสหรัฐฯ ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก 89.4 ล้านเอเคอร์ เป็น 89.8 ล้านเอเคอร์ และคาดการณ์รายงานตัวเลขสต็อกข้าวโพดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มิถุนายน คาดว่าจะอยู่ที่ 4,343 ล้านบุชเชล สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่ 4,111 ล้านบุชเชล หรือราว 5%

          แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนแข็ง
 

ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว

           กากถั่วเหลืองจากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าในสัปดาห์นี้ ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 22.60 บาท สภาพอากาศในฝั่งอเมริกายังคงปกติดี คาดการณ์ผลผลิตจึงยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยยังต้องติดตามรายงานจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ว่าคาดการณ์สต็อกและความต้องการของแต่ละประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ส่วนปริมาณซื้อในตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงทรงตัว  

 

           ด้านตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 29 มิถุนายน 2565 เมล็ดถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนสิงหาคม 2565 ราคาอยู่ที่ 1,571.50 เซนต์/บุชเชล และ กากถั่วเหลือง รอบส่งมอบเดือนสิงหาคม 2565 อยู่ที่ 429.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ช็อตตัน การเก็บเกี่ยวในแถบประเทศอเมริกาใต้สำเร็จครบแล้ว 100% ขณะที่รายงานความคืบหน้าการเพาะปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐฯ อยู่ที่ 98% และถั่วเหลืองที่ถูกประเมินอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมากอยู่ที่ 65% ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 68% จากปริมาณน้ำฝนที่เบาบางลง ส่วนตัวเลขสต็อกถั่วเหลือง ณ วันที่ 1 มิถุนายน ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาประมาณ 25% มาอยู่ที่ 965 ล้านบุชเชล และพื้นที่เพาะปลูกนักวิเคราะห์คาดว่าจะมีพื้นที่เพาะปลูกลดลงเล็กน้อยเป็น 90.4 ล้านเอเคอร์ จาก 90.9 ล้านเอเคอร์ แต่อย่างไรก็ตามยังมากกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 87.2 ล้านเอเคอร์ 

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองนำเข้าน่าจะทรงตัว
 

ปลาป่น : ราคาทรงตัว

           ปริมาณการจับปลาของประเทศเปรูสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดลงค่อนข้างมาก เนื่องจากมีปริมาณลูกปลาสูงเกินกว่าที่กำหนดในหลายๆ พื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย แต่ภาพรวมความเร็วการจับปลายังคงดีอยู่ โดยปัจจุบันจับปลาได้จริงประมาณ 70% ของโควต้า ขณะที่จีนผู้ซื้อหลัก ราคาซื้อปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ปริมาณซื้อหน้าท่าเรือในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงสูงทรงตัว ส่วนปริมาณสต็อกปรับลดลง คาดว่าปลาป่นสำหรับฤดูกาลใหม่จากเปรูจะส่งมาถึงจีนในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้

          โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 53.00 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 47.70 บาท และปลาป่นเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 45.20 บาท

 

          ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ยืนราคาที่กิโลกรัมละ 44.70 บาท ส่วนปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 โปรตีน ราคาทรงตัวที่กิโลกรัมละ 43.20 บาท

         แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว
 

ข้าว : ราคาลดลง

           ตลาดซื้อขายข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ราคาปรับลดลงมา รอผลผลิตรุ่นใหม่ที่จะเก็บเกี่ยวในปลายเดือน กรกฎาคมนี้ โดย ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 441 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นตันละ 440 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี. ราคาลดลงจากตันละ 410 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นตันละ 406 ดอลลาร์สหรัฐฯ

           ด้านตลาดซื้อขายข้าวในประเทศ ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ราคาลดลงจากกระสอบละ 1,420 บาท เป็นกระสอบละ 1,400 บาท ส่วนปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาลดลงจากกระสอบละ 1,310 บาท เป็นกระสอบละ 1,280 บาท

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวน่าจะลดลง

 

สุกร : ราคายืนแข็ง
 

           สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ รายงานข้อมูลสภาวะตลาดสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม โดยราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มเป็นไปตามประกาศ เมื่อวันพระที่ 28 มิถุนายน 2565 ที่กิโลกรัมละ 100 บาท ผู้เลี้ยงทุกภูมิภาคยังคงให้ความร่วมมือกับรัฐบาลรักษาระดับราคาสุกรขุนเท่าเดิม แม้ต้นทุนการเลี้ยงยังคงสูง ทั้งค่าพลังงาน ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง ที่ยืนระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนที่ผ่านมา กลุ่มผลพลอยได้จากข้าว โดยเฉพาะปลายข้าวเจ้า ราคาเกิน 13 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว ด้านการบริโภคดีขึ้นมาก หลังการเปิดประเทศและผ่อนคลายความเข้มงวดด้านสาธารณสุขมากขึ้น รวมทั้งพื้นที่ท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

           ส่วนลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาอยู่ที่ 3,600 บาท (บวก/ลบ 100) 

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะยืนแข็ง

 

ไก่เนื้อ : ราคายืนแข็ง

           ราคาไก่เนื้อมีชีวิต ณ หน้าฟาร์ม ตามประกาศสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ อยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท ด้านลูกไก่เนื้อ ราคาตัวละ 17.50 บาท และลูกไก่ไข่ ราคาตัวละ 26.00 บาท 

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนแข็ง

 

ไข่ไก่ : ราคายืนอ่อน

           ราคาแนะนำ ไข่ไก่คละ ณ หน้าฟาร์มเกษตรกร ตามประกาศสหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 อยู่ที่ฟองละ 3.30 บาท 

           แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะยืนอ่อน

-------------------------------------

ที่มา :  สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
           E-mail : [email protected]