พราวผุดคอนโดลักชัวรีในหัวหินรับเปิดเมืองจับกลุ่มครอบครัว-รีไทร์เมนท์
พราวผุด“เวหา”คอนโดระดับลักชัวรี่ในหัวหินรับเปิดเมือง-ท่องเที่ยวฟื้นชูจุดขายวิวทะเลพาโนรามาทุกยูนิตพร้อมบริการโรงแรมพ่วงสิทธิเล่นสวนน้ำวานา นาวา ฟรี 5 ปีแห่งแรกจับกลุ่มครอบครัว ต่างชาติที่เกษียณอายุในราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท
นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการ บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาโครงการให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เพื่อการใช้ชีวิตได้หลากหลายรูปแบบ โดยในส่วนของโครงการเวหา เป็นคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ที่สูงที่สุดในหัวหิน ติดโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน มูลค่า2,290 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมแห่งที่2 ต่อจากอินเตอร์คอนติเนนตัล เรสซิเดนเซส หัวหิน
โครงการเวหา พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Happiness Happens มีจุดเด่นดีไซน์แบบ Single Corridor ทำให้มองเห็นวิวทะเลทุกยูนิตแบบพาโนรามา มีห้องให้เลือกถึง 7 แบบแต่ง Fully Furnish มีพื้นที่ส่วนกลางสูงถึง 2,647 ตร.ม. หรือประมาณ 2 ไร่ แทรกอยู่ระหว่างชั้นกว่า 10 ชั้น เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างหลากหลายลงตัว
ตามแนวคิด “More Than Just Living”เป็นการผสานระหว่างการพักผ่อนและการบริการระดับรีสอร์ท ด้วยบริการเหนือระดับรวมถึงเซอร์วิสจากโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน พร้อมทั้งโปรแกรม “พราว พริวิเลจ” และสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากธุรกิจในเครือพราว และสิทธิเข้าเล่นสวนน้ำวานา นาวา ฟรี 5 ปีในราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท
นางสาวพราวพุธ กล่าวว่า ตลาดคอนในหัวหินยังมีโอกาสเติบโต ด้วยศักยภาพของเมืองที่มีเสน่ห์และมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน อีกทั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นแนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตทะเลฝั่งตะวันตกในโครงการ “Thailand Riviera” เพื่อยกระดับเมืองท่องเที่ยวชายทะเล สู่ระดับโลก ครอบคลุมตั้งแต่ จ.เพชรบุรี, จ.ประจวบคีรีขันธ์, จ.ชุมพร และ จ.ระนอง รวมถึงจาก Mega Project ของรัฐบาล อาทิ รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ สนามบิน และทางด่วนส่วนขยาย อีกทั้งแผนพัฒนาโครงข่ายการคมนาคม ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางโดยเครื่องบิน
ปัจจุบันมีแผนขยายสนามบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และความร่วมมือกับ Phoenix Group เพื่อเตรียมพัฒนาสนามบินหัวหินสู่สนามบินนานาชาติหัวหิน โดยในเดือนก.ค. 2565 จะมีการเพิ่มไฟล์ทบินตรงจากภูเก็ต และนำเส้นทางบินจากเชียงใหม่กับกัวลาลัมเปอร์กลับมาอีกครั้ง
การเดินทางโดยรถยนต์ บนถนนพระราม 2 กำลังขยายเพิ่มเป็น 14 เลน ซึ่งตอนนี้เสร็จแล้ว 8 เลน และทางด่วนยกระดับคู่ขนานมอเตอร์เวย์นครปฐมและชะอำที่มีแผนเสร็จสิ้นในปี 2568 การเดินทางโดยรถไฟ มีแผนพัฒนารถไฟทางคู่และรถไฟไฮสปีดอย่างต่อเนื่องที่จะช่วยลดเวลาการเดินทางให้จากกรุงเทพฯ มาหัวหินใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณดีด้านการท่องเที่ยวและกำลังซื้อทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ โดยตลาดในประเทศโรงแรมและ การท่องเที่ยวในหัวหินได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากแคมเปญของรัฐบาลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในส่วนของตลาดที่พักอาศัยยอดขายส่วนใหญ่บ้านประเภท Resort Home ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ในด้านการท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมาเช่นกัน อีกทั้งยังพบดีมานด์ในกลุ่มลูกค้าชาวยุโรปที่ต้องการบ้านสำหรับช่วงเกษียณอายุโดยเฉพาะประเทศรัสเซีย
“กลุ่มเป้าหมายของคอนโด เวหาจะ เป็นกลุ่มครอบครัวตั้งแต่คู่ที่เพิ่งแต่งงานไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่ รวมถึงชาวต่างชาติที่เกษียณอายุการทำงานและอยากเข้ามาอยู่ในเมืองไทยในราคาที่จับต้องได้เฉลี่ยประมาณ 132,000 บาท/ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.19 ล้านบาท ”
ข้อมูลผลวิจัยจากไนท์แฟรงค์ พบว่า ราคาเสนอขายเฉลี่ยคอนโดวิวทะเลมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมากกว่าห้องไม่ติดทะเล ปัจจุบันห้องไม่ติดวิวทะเลมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 70,700 บาท/ตร.ม. ห้องวิวทะเลราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 141,670 บาท/ตร.ม. และตลอดเวลา 5 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่พักอาศัยไม่มีวิวทะเลจะอยู่ที่ราคาต่ำกว่า 100,000 บาท/ตร.ม. กลุ่มที่พักอาศัยระดับลักชัวรี่ติดชายหาดมีราคาประมาณ 130,000 บาท/ตร.ม. หรือสูงกว่าและกลุ่ม Super Rare Item ที่หันหน้าเข้าหาวิวทะเลโดยตรงมีราคาเฉลี่ยสูงมากกว่า275,000 บาท/ตร.ม. จึงมองว่าราคาขายของ “เวหา” มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับทำเลที่ตั้ง
“เบื้องต้นเราได้เริ่มทำการตลาดในฝั่งต่างประเทศไปบ้างแล้ว และกำลังเริ่มสร้างการรับรู้ในไทยผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยแบ่งสัดส่วนการทำงานตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศอยู่ที่ 20 : 80 ซึ่งค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายของเรา คาดว่าภายในสิ้นปี 2565 จะสามารถสร้างยอดขายจากโครงการนี้ได้ประมาณ 50%” นางสาวพราวพุธ กล่าว