10 อันดับกองทุน 'ผลตอบแทน' สูงสุด ครึ่งปีแรก 65
"มอร์นิ่งสตาร์" เผยครึ่งปีแรก 65 กลุ่มกองทุนน้ำมัน มีผลตอบแทนสูงสุด เป็นเพียงกลุ่มเดียวมีผลตอบแทนมากกว่า 10% นำโดย กองทุน I-OIL ผลตอบแทนโดดเด่น 45.02 % แนะการลงทุนเกี่ยวกับน้ำมันในครึ่งปีหลัง 65 ยังเสี่ยงสูง ต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก
ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมาของปีนี้ ตลาดการลงทุนทั่วโลกยังคงอยู่ในช่วงความผันผวนสูงมาก อันเกิดจากทั้งภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงในรอบหลายสิบปี
หากไปดูที่ตลาดหุ้นจะพบว่าแสดงถึงความกังวลต่อเงินเฟ้ออย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นฝั่งสหรัฐฯ ยุโรป หรือเอเชีย ต่างผลตอบแทนติดลบสูง ซึ่งต่างจากภาพของปีที่แล้วที่เป็นบวกในหลัก 10%
ด้านผลตอบแทนในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นแน่นอนว่าในปีนี้ "กลุ่มพลังงาน" เป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนสูงสุด เป็นไปตามราคาพลังงานที่พุ่งสูงตามความต้องการพลังงานในช่วงเศรษฐกิจหลังจากผ่านพ้นช่วงเกิดโรคระบาดรุนแรง และผลจากการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงดำเนินต่อไป ที่ส่งผลไปยังต้นทุนสินค้าในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมต่าง ๆ
เมื่อกลับมาดูที่ผลตอบแทนกองทุนในช่วงที่ผ่านมาก็จะสะท้อนภาพลักษณะเดียวกัน โดยมี กลุ่มกองทุนน้ำมันให้ผลตอบแทนสูงสุด และเป็นเพียงกลุ่มเดียวที่มีผลตอบแทนมากกว่า 10% ตามมาด้วยกองทุนทองคำที่ยังเป็นบวกเล็กน้อย ในขณะที่อันดับรองลงมาเป็นกลุ่มกองทุนความเสี่ยงต่ำ
10 อันดับกองทุน 'ผลตอบแทน' สูงสุด ครึ่งปีแรก 65
ล่าสุด บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผย กองทุน “ผลตอบแทน” สูงสุด 10 อันดับ ในครึ่งปีแรก 2565 (YTD) ณ 30 มิ.ย. 2565 ดังนี้
- กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ออยล์ ฟันด์ (I-OIL) ผลตอบแทน 45.02 %
- กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส ออยล์ (TUSOIL) ผลตอบแทน 44.90%
- กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #6 (TOIL6) ผลตอบแทน 44.64%
- กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทน (I-10) ผลตอบแทน 42.83%
- กองทุนเปิด ทหารไทย ออยล์ ฟันด์(TMBOIL) ผลตอบแทน 38.13%
- กองทุนเปิด เคแทม ออยล์ ฟันด์ (KT-OIL) ผลตอบแทน 37.39%
- กองทุนเปิด วรรณ แอคทีฟ6/2 ฟันด์ (ONE-ACTIVE6/2) ผลตอบแทน 35.01%
- กองทุนเปิด กรุงศรี ออยล์ (KF-OIL) ผลตอบแทน 33.34%
- กองทุนเปิด เค ออยล์ (K-OIL) ผลตอบแทน 32.65%
- กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ฟันด์ (TISCOOIL) ผลตอบแทน 32.47%
นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กล่าวว่า กองทุนที่มีผลตอบแทนสูงสุดในช่วงครึ่งแรกปี 2565 ยังคงกระจุกในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันที่คงปรับตัวสูงขึ้นจากทางยุโรปได้ออกแผนแบนน้ำมันรัสเซีย ทั้งนี้ การลงทุนเกี่ยวกับน้ำมัน ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในช่วงที่เหลือของปี ยังคงต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในตลาดที่มีเงินเฟ้อสูง ที่ยังคงต้องติดตามว่าจะมีการปรับดอกเบี้ยเร็วเพียงใดและจะสามารถกดเงินเฟ้อให้ชะลอได้หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อตราสารการลงทุนแต่ละประเภทในแบบที่ต่างกัน
ดังนั้น นักลงทุนควรลงทุนอย่างมีวินัยตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้เป็นหลักและติดตามข่าวสารเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจลงทุน
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล ผู้อํานวยการอาวุโส ฝ่ายที ปรึกษาบริหารเงินลงทุน บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) จํากัด แนะนำว่า ถ้านักลงทุนที่ต้องการถือกองทุนรวมน้ำมัน ตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี กองทุนรวม Invesco DB Oil Fund (DBO) ก็จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า
ขณะที่ หากต้องการลงทุนระยะสั้น ๆ ประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับราคาส่งมอบ (Spot Price) มากที่สุด กองทุนรวม United States Oil Fund (USO) อาจตอบโจทย์มากกว่า
ตัวอย่าง กองทุนรวม Invesco DB Oil Fund (DBO) เช่น K-OIL, TMBOIL, KT-OIL,KF-OIL
ตัวอย่าง กองทุนรวม United States Oil Fund (USO) เช่น TUSOIL และI-OIL