สั่งลุย! ทหารจับแก๊งขนน้ำมันเถื่อน 1,950 ลิตร จ่อข้ามแดนไปกัมพูชา

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันชายแดนเข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบข้ามแดนและปัญหาการนำสิ่งผิดกฎหมายข้ามบริเวณชายแดน จ.สระแก้ว โดยเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 111 หรือ ฉก.ร.111 กองกำลังบูรพา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศฯ และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ออกทำการลาดตระเวนป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการลักลอบขนน้ำมันจากประเทศไทย ลักลอบส่งออกไปขายฝั่งกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณแนวชายแดน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 

กระทั่ง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมฯได้ตรวจพบรถอีแต๊ก ดัดแปลงต่อเติม มีกระบะพ่วงท้ายสำหรับบรรทุกพืชผลทางการเกษตร มีชาย 3 คน อยู่บนรถขับออกมาจากท้ายหมู่บ้านแสง์ (บ้านสะ-แหง๋) ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แล้ววิ่งลัดเลาะไปตามถนนลูกรังมุ่งหน้าจะออกไปเขตแดนกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ล่อแหลมและเฝ้าระวัง

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและสกัดกั้น พบว่า ภายในกระบะดัดแปลงท้ายรถอีแต๊กคันดังกล่าว มีถังพลาสติกสีน้ำเงินขนาดใหญ่บรรจุน้ำมันดีเซล ถังละ 30 ลิตร จำนวน 65 ถัง รวมน้ำมันดีเซล จำนวน 1,950 ลิตร วางซุกซ่อนอยู่ในกระบะ ตรวจสอบไม่มีเอกสารการขออนุญาตส่งออกหรือนำเข้าน้ำมันแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันควบคุมตัวชายไทยทั้ง 3 คน ประกอบด้วย 1.นายพรศักดิ์ อายุ 25 ปี ชาวอ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นคนขับ ,2.นายวัชรินทร์ อายุ 18 ปี ชาว อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เป็นคนนั่งข้างคนขับ และ 3.นายอดิศักดิ์ อายุ 22 ปี ชาวอ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมกับตรวจยึดรถอีแต๊กและน้ำมันดีเซล 65 ถัง รวม 1,950 ลิตร ไว้เป็นหลักฐาน

 จากการสอบสวน เบื้องต้น ชายไทยทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นชาวบ้านใน อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว อ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากชาวกัมพูชาให้นำน้ำมันดีเซลทั้งหมด ไปส่งให้นายทุนชาวกัมพูชา ที่บ้านมะฮอสล๊อบ ต.โคกละเมียด อ.ทมอพวก จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบ้านแสง์ ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว แต่ไม่ยอมบอกว่า ได้ค่าจ้างเท่าไหร่ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางส่งให้เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และสอบสวนหาที่มาของน้ำมันดีเซลดังกล่าว เพื่อติดตามดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ แจ้งด้วยว่า ปัจจุบันน้ำมันดีเซลในฝั่งประเทศกัมพูชา มีราคาแพงกว่าประเทศไทยถึงลิตรละ  8-10 บาท ทำให้มีคนไทยกลุ่มหนึ่ง หันมาลักลอบส่งน้ำมันดีเซลไปขายยังประเทศกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากมีส่วนต่างราคาน้ำมันที่ค่อนข้างสูง ดังนั้น เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานจึงต้องร่วมกันคุมเข้มปัญหาดังกล่าวตลอดแนวชายแดน และราคาน้ำมันดีเซลในประเทศไทยปัจจุบันรัฐบาลไทยได้ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันของไทยออกมาอุดหนุนจนน้ำมันดีเซล มีราคาลิตรละประมาณ 35 บาทเศษ