“ททท.” ของบพันล้าน ผุด “เราฟื้นด้วยกัน” จัดบูสเตอร์ช็อต กระตุ้นท่องเที่ยว
“ททท.” จ่อของบฯรัฐบาล 1,035 ล้านบาท เป็น “บูสเตอร์ ช็อต” กระตุ้นภาคท่องเที่ยว ทำโครงการ “เราฟื้นด้วยกัน” จัดโปรโมชั่นร่วมกับสายการบินระหว่างประเทศ เพิ่มที่นั่งอีก 10.8 ล้านที่นั่ง ย้ำหากไม่ได้งบก้อนนี้ หวั่นรายได้ท่องเที่ยวปี 65 พลาดเป้า 2.65 แสนล้านบาท
หนึ่งในโจทย์หินของการฟื้นฟูภาคท่องเที่ยวไทยช่วงครึ่งหลังของปี 2565 หลังเผชิญวิกฤติโควิด-19 มานานกว่า 2 ปีครึ่ง คือการกระตุ้นให้ “สายการบิน” ซึ่งเป็นผู้ประกอบการต้นน้ำ กลับมามั่นใจทำการบินอีกครั้ง รองรับดีมานด์นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทย เพื่อส่งต่ออานิสงส์การฟื้นตัวด้านรายได้ทั้งระบบไปยังผู้ประกอบการในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เช่น โรงแรมที่พัก บริษัทนำเที่ยว และรถทัวร์
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.เตรียมเสนอรัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม วงเงิน 1,035.75 ล้านบาท ภายใต้ชื่อโครงการ “เราฟื้นด้วยกัน” สำหรับเป็น “บูสเตอร์ช็อต” หรือวัคซีนเข็มกระตุ้นในการฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบ ให้ได้ตามเป้าหมายปี 2565 ที่จะสร้างรายได้รวม 1.5 ล้านล้านบาท คิดเป็นการฟื้นตัว 50% ของรายได้รวมปี 2562 ซึ่งปิดที่ 3 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นจากตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน สร้างรายได้ 8 แสนล้านบาท และตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 6.56 แสนล้านบาท
สำหรับวงเงิน 1,035.75 ล้านบาทดังกล่าว แบ่งเป็นสำหรับใช้ในกลุ่มงานสินค้าและธุรกิจด้านท่องเที่ยว 432 ล้านบาท ตลาดในประเทศ 450 ล้านบาท ตลาดเอเชียแปซิฟิก 50 ล้านบาท และตลาดยุโรป 103.75 ล้านบาท
++ หวั่นสูญรายได้ 2.65 แสนล้านบาท
จากการที่ ททท.ประเมินสถานการณ์ตอนนี้ หากไม่ได้งบฯบูสเตอร์ช็อต รายได้จากการท่องเที่ยวปีนี้จะพลาดเป้าหมายไป 265,000 ล้านบาท แบ่งเป็น พลาดเป้ารายได้จากตลาดต่างประเทศ 50,000 ล้านบาท และพลาดเป้ารายได้จากตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ 215,000 ล้านบาท เรื่องนี้เป็นไปตามที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บอกไว้ว่า “ให้เราไปรบ ก็ต้องให้อาวุธเราด้วย”
“ปัญหาของตลาดต่างประเทศคือเที่ยวบินยังไม่กลับมาเหมือนภาวะปกติ ทำให้จำนวนที่นั่งและความถี่ของเที่ยวบินมีจำกัด ขณะที่คนมีความต้องการเดินทางเพิ่มขึ้น”
++ หวังเพิ่มที่นั่งเที่ยวบินระหว่างประเทศอีก 10.8 ล้านที่นั่ง
เห็นได้จากปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 มีความถี่ของเที่ยวบิน 249,853 เที่ยวบินต่อปี และมีจำนวนที่นั่ง 56.28 ล้านที่นั่งต่อปี ขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 2565 มีเที่ยวบิน 72,548 เที่ยวบิน มีจำนวนที่นั่ง 17.33 ล้านที่นั่ง คิดเป็นการกลับมา 29% และ 31% ของปี 2562 ตามลำดับ ถ้าหากในปีนี้ต้องการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา 50% ของปี 2562 จะต้องหาที่นั่งของเครื่องบินให้ได้อีก 10.8 ล้านที่นั่ง
“หาก ททท.ได้งบฯบูสเตอร์ช็อตสำหรับตลาดต่างประเทศรวม 153.75 ล้านบาท จะนำไปทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายร่วมกับสายการบินต่างๆ พร้อมทำโรดโชว์ในประเทศเป้าหมาย แต่หากไม่ได้งบก้อนนี้ ทุกๆ 1 ล้านคนที่พลาดเป้าจะทำให้รายได้หายไป 50,000 ล้านบาท โดยในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ททท.นัดหารือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้ 10.8 ล้านที่นั่งด้วย”
++ กระตุ้น ‘ไทยเที่ยวไทย’ 160 ล้านคน-ครั้ง
ส่วนปัญหาของตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ ตามที่ ททท.ตั้งเป้าในปี 2565 ไว้ 160 ล้านคน-ครั้งนั้น จากสถิติช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.2565) ทำได้เพียง 78.35 ล้านคน-ครั้ง ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะทำได้เพิ่มเป็น 110 ล้านคน-ครั้ง ทำให้พลาดเป้าไป 50 ล้านคน-ครั้ง คิดเป็นรายได้ที่จะพลาดเป้าไป 215,000 ล้านบาท
ททท.จึงต้องของบฯบูสเตอร์ช็อตสำหรับกระตุ้นตลาดไทยเที่ยวไทยด้วย รวม 882 ล้านบาท แบ่งเป็นเพื่อนำไปจัดกิจกรรมต่างๆ 432 ล้านบาท และนำไปส่งเสริมตลาดในประเทศอีก 450 ล้านบาท
ประกอบด้วย การทำโปรโมชั่นร่วมกับสายการบิน เพื่อเพิ่มที่นั่งเส้นทางบินภายในประเทศ 1 ล้านที่นั่ง พร้อมผลักดันให้มีอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (โหลดแฟคเตอร์) ไม่น้อยกว่า 70%
รวมถึงการทำโปรโมชั่นร่วมกับโรงแรมที่อยู่ในฐานภาษี เพื่อเพิ่มจำนวนห้องพัก 1 ล้านห้องหรือคืน ชดเชยที่ไม่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อสนับสนุนให้มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยถึง 55%
นอกจากนี้จะจัดทำโครงการร่วมกับรถทัวร์นำเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านการเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร 1 ล้านคนที่ใช้บริการบริษัทนำเที่ยวและไกด์ผ่านการเดินทางโดยรถทัวร์ อุดหนุนในส่วนของค่าน้ำมัน ซึ่งทางภาคเอกชนทำแผนของบสนับสนุน 10,000 บาทต่อคันต่อวัน เป็นต้น โดยต้องจัดทำแพ็คเกจมาเพิ่มเติม เพื่อกำหนดรายละเอียดของระยะทาง จำนวนวันพักค้าง เส้นทางเดินรถ เพื่อปิดช่องทางการทุจริตทั้งหมด