"เจียรวนนท์" ยังยืนหนึ่ง! "Forbes" เปิด 10 อันดับ "มหาเศรษฐีไทย" ปี 65
Forbes เผยโฉม 10 อันดับ "มหาเศรษฐีไทย" ประจำปี 2565 "พี่น้องเจียรวนนท์" แห่ง "เครือซีพี" ยังคงรั้งอันดับ 1 ตามด้วย "เฉลิม อยู่วิทยา" และครอบครัว เจ้าของ "Red Bull" และ "เจริญ สิริวัฒนภักดี" แห่ง "เครือไทยเบฟ"
วันที่ 7 ก.ค. 65 เว็บไซต์ Forbes Thailand (ฟอร์บส ประเทศไทย) เผยการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 ระบุว่า ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซา ดัชนีหุ้นไทยปรับลดจากจากจุดสูงสุดลง 3% และตั้งแต่จากการอันดับมหาเศรษฐีไทยครั้งล่าสุด อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อหน่วยดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงถึง 12% ส่งให้มูลค่ารวมทรัพย์สินของมหาเศรษฐีไทยทั้ง 50 รายชื่อ ลดลงเกือบ 6% อยู่ที่ 1.51 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นราว 5.31 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับการจัดอันดับปีที่ผ่านมา
ขณะที่ 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 มีการสลับตำแหน่งขึ้นลงของอันดับ อันเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวนและค่าเงินบาทที่อ่อนไหวกับเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ
มหาเศรษฐีไทย 3 อันดับแรก ยังไม่มีการเปลี่ยนอันดับจากปีที่ผ่านมา มหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ยังคงเป็น “พี่น้องเจียรวนนท์” แม้มูลค่าทรัพย์สินรวมของพวกเขาลดลง 3.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมาจากอัตราแลกเปลี่ยนสหรัฐ ส่งผลทำให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของประเทศจากการจัดอันดับโดย Forbes อยู่ที่ 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 9.33 แสนล้านบาท)
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มบริษัทในเครือซีพี คือดีลการควบรวม ทรู คอร์ปอเรชั่น กับ DTAC (ดีแทค) ที่ยังคงรอคอยการอนุมัติจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.)
จากยอดขายของเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull (เรดบูล) ที่เติบโตจากทั่วโลกทำให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีอันดับ 2 อย่าง เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว เพิ่มขึ้นอีก 1.9 พันล้านดอลลาร์ มูลค่าทรัพย์สินในการจัดอันดับประจำปีนี้อยู่ที่ 2.64 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 9.30 แสนล้านบาท) ไม่ห่างมหาเศรษฐีอันดับ 1 มากนัก
ขณะที่มหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 3 ได้แก่ เจริญ สิริวัฒนภักดี หรือ เจ้าสัวเจริญ แห่งเครือไทยเบฟ โดยมูลค่าทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.94 แสนล้านบาท)
การจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2565 มีเพียงมหาเศรษฐีไทยเพียง 10 รายที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น หนึ่งในนั้นคือ สารัชถ์ รัตนาวะดี มหาเศรษฐีด้านธุรกิจพลังงาน แห่งอาณาจักร GULF และจากอานิสงส์ของอัตราแลกเปลี่ยนทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เขาติดในรายชื่ออันดับที่ 4 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 3.87 แสนล้านบาท)
นอกจากธุรกิจพลังงานแล้ว สารัชถ์ยังเดินหน้าขยายความร่วมมือทางธุรกิจนำ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ AIS และ Singtel เตรียมจัดตั้งศูนย์ข้อมูลในประเทศ
สำหรับสมาชิกมหาเศรษฐีไทย 10 อันดับแรกในปีนี้มี วานิช ไชยวรรณ มหาเศรษฐีอันดับ 8 ที่เลื่อนจากอันดับ 14 จากการอันดับเมื่อปีที่ผ่านมา แทนที่ ชูชาติ เพ็ชรอำไพ และ ดาวนภา เพชรอำไพ จาก เมืองไทย แคปปิตอล ที่รั้งอันดับมหาเศรษฐีอันดับ 12 ในการจัดอันดับมหาเศรษฐีไทยในครั้งนี้
10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 มีดังต่อไปนี้
อันดับ 1 พี่น้องเจียรวนนท์
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์ / 9.33 แสนล้านบาท
อันดับ 2 เฉลิม อยู่วิทยาและครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.64 หมื่นล้านดอลลาร์ / 9.30 แสนล้านบาท
อันดับ 3 เจริญ สิริวัฒนภักดี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ / 3.94 แสนล้านบาท
อันดับ 4 สารัชถ์ รัตนาวะดี
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ / 3.87 แสนล้านบาท
อันดับ 5 ครอบครัวจิราธิวัฒน์
มูลค่าทรัพย์สิน: 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ / 3.73 แสนล้านบาท
อันดับ 6 สมโภช อาหุนัย และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.9 พันล้านดอลลาร์ / 1.37 แสนล้านบาท
อันดับ 7 ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ
มูลค่าทรัพย์สิน: 3.1 พันล้านดอลลาร์ / 1.09 แสนล้านบาท
อันดับ 8 วานิช ไชยวรรณ
มูลค่าทรัพย์สิน: 3 พันล้านดอลลาร์ / 1.05 แสนล้านบาท
อันดับ 9 ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.8 พันล้านดอลลาร์ / 9.86 หมื่นล้านบาท
อันดับ 10 ครอบครัวโอสถานุเคราะห์
มูลค่าทรัพย์สิน: 2.7 พันล้านดอลลาร์ / 9.51 หมื่นล้านบาท
ขณะที่มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ที่ติด 50 อันดับแรกปีนี้ มีด้วยกัน 3 ราย ได้แก่ อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของกลุ่มเจ มาร์ท ติดในรายชื่อมหาเศรษฐีไทยในอันดับที่ 37 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 835 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.94 พันล้านบาท) อันเนื่องจากมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนั้น มูลค่าหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นของ Com7 หนึ่งในผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จาก Apple รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่งให้ สุระ คณิตทวีกุล ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแห่ง Com7 ติดในรายชื่อมหาเศรษฐีไทยในอันดับที่ 49 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 670 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.36 พันล้านบาท)
สำหรับมหาเศรษฐีหน้าใหม่ในกลุ่ม Top 50 อีกรายคือ พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี ผู้ร่วมก่อตั้งคลินิกเสริมความงามพงศ์ศักดิ์ และยังเป็นนักลงทุนสาย (Value Investor) หรือ VI ติดในอันดับที่ 50 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 655 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.3 พันล้านบาท) ซึ่งหนึ่งในพอร์ตหุ้นที่เขาถือครองมีหุ้นของกลุ่ม Com7 อยู่ส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 คิดจากอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 17 มิ.ย. 2565