"อพท." ชูวิถี "ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา" ปั้นแหล่งเที่ยวกระจายรายได้สู่ชุมชน
“ลุ่มน้ำทะเลสาบลงขลา” พื้นที่อันอุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติและมีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูง การดำเนินงานพัฒนาการท่องเที่ยวในรูปแบบของ “พื้นที่พิเศษ” จะสามารถช่วยให้พื้นที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เกิดความยั่งยืน!!
ใช้หลักการเชิงวิชาการ เชิงเทคนิค มาวิเคราะห์และกำหนดสถานการณ์ปัญหาและอุปสรรคด้านการท่องเที่ยวที่มีความสอดคล้องกับบริบทในแต่ละพื้นที่
การประกาศพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเป็น “พื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” นับเป็นกลไกหนึ่งในการบริหารและพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวในเชิงบูรณาการ โดยมีองค์กรกลางทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ และเป็นผู้ประสานงานกับท้องถิ่นหรือเป็นพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยวให้มีการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพ
องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. มีความเชี่ยวชาญในการทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับทุกภาคี เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญด้านการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว รวมทั้งเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคีที่เกี่ยวข้อง ด้วยการบริหารจัดการพื้นที่พิเศษอย่างมีส่วนร่วม ตามหลักการทำงานแบบ Co-Creation & Co-Own โดยมีเป้าหมายเพื่อการเพิ่มรายได้ และกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นจากการท่องเที่ยว
นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า พื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) เป็นที่เรียบร้อย อพท.อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำ “แผนขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา” ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ที่สอดคล้องกับนโยบายการท่องเที่ยว ความต้องการของชุมชนท้องถิ่นและภาคีที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลการศึกษาเบื้องต้นกำหนดไว้ 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.ยุทธศาสตร์การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน 2.ยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ตามวิถี เขา-โหนด-นา-เล 3.ยุทธศาสตร์การพัฒนาสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวที่ต่อยอดอัตลักษณ์ของลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา 4.ยุทธศาสตร์การพัฒนาเครือข่ายและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว และ 5.ยุทธศาสตร์การพัฒนามาตรฐานการบริหารจัดการการท่องเที่ยว
ปัจจุบันพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลามีการดำเนินการท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ยัง “ขาดการจัดการ” ในการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว การพัฒนาของ อพท.จะใช้วิธีบูรณาการทำงานร่วมกัน โดยดึง “ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา” เป็นแกนหลักในการพัฒนาพื้นที่นับตั้งแต่ทะเลสาบตอนบน ซึ่งเป็นจุดกำเนิดแหล่งน้ำจืดใน จ.นครศรีธรรมราช ที่ไหลมารวมกันเป็นทะเลน้อย ซึ่งอยู่ตอนบนของ จ.พัทลุง ทำให้เป็นแหล่ง 3 น้ำในทะเลสาบตอนใน มีพื้นที่ราบเหมาะต่อการทำการเกษตร และไหลบรรจบที่ทะเลสาบสงขลาตอนล่าง จ.สงขลา จึงเป็นทะเลสาบแบบลากูนขนาดใหญ่ที่สุดของไทย ประกอบกับความโดดเด่นด้านฐานทุนวัฒนธรรมจากการเคลื่อนย้ายของคนหลายสัญชาติ จึงนำมาสู่การพัฒนาภายใต้ธีม “โหนด นา เล”
ภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว อพท.จะนำหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) มาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (STMS) และเกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย (CBT) มายกระดับมาตรฐานการให้บริการของชุมชน และผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
ผ่านการนำเสนอ 5 เส้นทางการท่องเที่ยว ภายใต้วิสัยทัศน์ของแผนการขับเคลื่อนที่กำหนดไว้ว่า “วิถีชีวิตแห่งลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน” ได้แก่ เส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เส้นทางท่องเที่ยววิถีโหนดนาเล เส้นทางท่องเที่ยววิถีชีวิตทะเลสาบสงขลา เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยหลวงปู่ทวด และเส้นทางท่องเที่ยวโนรา มรดกภูมิปัญญาไทย มรดกวัฒนธรรมโลก
“อพท. ได้วางแผนพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาภายใต้แนวคิด โหนด นา เล โดยในความหมายของ ‘โหนด’ มาจากคำว่า ‘ตาลโตนด’ ที่เป็นสัญลักษณ์แทนความหลากหลายด้านทรัพยากรธรรมชาติพันธุ์พืชพันธุ์สัตว์ที่เป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญ ส่วน ‘นา’ คือ ฐานสำคัญทางความมั่นคงด้านอาหารด้วยเป็นพื้นที่ลุ่ม จึงมีการทำนา และมีข้าวพันธ์ดีคือข้าวสังข์หยดที่มีชื่อเสียง โดยข้าวสังข์หยดที่ได้ถูกพัฒนาขึ้นจากข้าวพื้นเมืองที่มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ ขณะที่ ‘เล’ คือแหล่งทรัพยากรทางน้ำ อาหาร เส้นทางการค้าที่ทำให้ผู้คนมั่งคั่งและมีชีวิตชีวา”
ถือเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของความอุดมสมบูรณ์ที่ขับเคลื่อน 15 อำเภอ ใน 3 จังหวัด สงขลา พัทลุง และนครศรีธรรมราช ให้มีความเจริญมาอย่างยาวนาน!