SAPPE ผนึก GUNKUL ซื้อสารสกัดกัญชง ผุดสินค้าไตรมาส 3/65

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ บริษัท จี.เค.เฮมพ์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ในการซื้อ-ขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพืชกัญชากัญชงเพื่อช่วยขยายตลาดสินค้ากัญชากัญชง รวมทั้งนำมาใช้ในการผลิตสินค้าของบริษัทด้วย โดยจะเริ่มทำตลาดในประเทศก่อนขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ

โดยคาดไตรมาส 3 ปี 2565 บริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของสารสกัดกัญชงจำนวน 2 รายการ ส่วนแผนออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มใหม่ครึ่งปีหลังทั้งหมดจะอยู่ที่ 10 ผลิตภัณฑ์ 

ปัจจุบัน ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาตลาด เบื้องต้นจะเริ่มต้นในส่วนวัตถุดิบในการผลิตสินค้าต่างๆ ทั้งอุปโภคและบริโภค เพื่อมุ่งหวังนำเสนอทางเลือกในการเพิ่มมูลค่าสินค้าจากประโยชน์ของสารสกัดจากกัญชากัญชง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า ภายใต้คุณภาพและมาตรฐานต่างๆ ที่กำหนดไว้ทั้งในไทยและในแต่ละประเทศเพื่อการส่งออกสู่ตลาดโลกในอนาคต

โดยคาดว่าภาพรวมตลาดเครื่องดื่มในครึ่งปีหลังจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรกที่เติบโตเล็กน้อย ได้รับปัจจัยหนุนภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว และการเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาช่วยหนุนกำลังซื้อในประเทศ ซึ่งบริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 65 โต 15% จากปีก่อน ที่มีรายได้ 3,712.77 ล้านบาท

นายพงษ์สกร ดำเนิน ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการสายงานธุรกิจพลังงาน บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ากำไรสุทธิจากธุรกิจกัญชงและกัญชา แตะระดับ 1,000 ล้านบาทภายในปี 2566

โดยคาดว่าจะมีปริมาณการจำหน่ายกัญชงและกัญชารวมกันไม่ต่ำกว่า 70,000 กิโลกรัม ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจากรูปแบบการปลูกของบริษัทที่เป็นระบบโรงเรือนที่ได้มาตรฐาน เป็นพื้นที่เพาะปลูกของบริษัทเอง ทำให้มั่นใจได้ว่ากัญชา-กัญชงที่เพาะปลูกมีคุณภาพและมาตรฐานสูงมากพอสำหรับนำไปทำสารสกัด รวมถึงเพื่อใช้การทางการแพทย์ จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้า

โดยบริษัทได้ขยายพื้นที่การปลูกครบ 3 เฟส เพื่อรองรับความต้องการของตลาดหลังจากที่มีการปลดล็อกกัญชงและกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และยังสามารถขยายพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่องได้กว่า 1,000 ไร่ หากมีความต้องการจากตลาดเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่างศึกษาการส่งช่อดอกกัญชงไปจำหน่ายในตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาตั้งโรงงานผลิตยาที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากกัญชงและกัญชา โดยอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ 2 ทางเลือก คือ นำสูตรยาเข้ามาเพื่อผลิตและจำหน่ายด้วยตนเอง หรือ เป็นการร่วมลงทุน (JV) กับผู้ผลิตยาในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนปลายปีนี้เบื้องต้นคาดจะใช้งบลงทุนราว 1,000 ล้านบาท 

ด้านผลประกอบการของกลุ่ม GUNKUL ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากโครงการรับเหมาก่อสร้างต่างๆที่มีดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมมีปริมาณลมมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก รวมไปถึงเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจกัญชงและกัญชาเข้ามาเสริม