พาณิชย์ โชว์ความสำเร็จดันสินค้าผ้าจีไอใช้เป็นบรรจุภัณฑ์แชมเปญฝรั่งเศส
กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือสำนักงานทรัพย์สินอุตสาหกรรมฝรั่งเศส ผลักดันดีไซเนอร์ไทยบุกตลาดฝรั่งเศส และร่วมหารือสมาคมการค้าตัวแทนผู้ผลิตแชมเปญ (Comité Champagne) ใช้ผ้าจีไอไทย เป็นส่วนหนึ่งของบรรจุภัณฑ์แชมเปญ
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมาได้นำคณะพบนายปาสคาล โฟร์ อธิบดีสำนักงานทรัพย์สินอุตสาหกรรมแห่งประเทศฝรั่งเศส (INPI) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยได้มีการหารือความร่วมมือระหว่างกรมฯ กับ INPI เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เช่น การส่งเสริมสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือสินค้าจีไอ(GI) ในเชิงพาณิชย์ การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาไทยในตลาดแฟชั่นฝรั่งเศส และการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ไทยเพื่อพร้อมรุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งในเร็วๆ นี้
รวมทั้งกรมฯยัง ร่วมกับ INPI เตรียมจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนข้อมูลการคุ้มครองลิขสิทธิ์และการออกแบบแฟชั่นซึ่งจะเป็นประโยชน์และปูทางให้นักออกแบบแฟชั่นรุ่นใหม่ของไทยเข้าใจแนวทางการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในฝรั่งเศส พร้อมบุกตลาดฝรั่งเศสได้อย่างมั่นใจต่อไป
นายวุฒิไกร กล่าวว่า นอกจากนี้ กรมฯ ได้หารือกับสมาคมการค้าตัวแทนผู้ผลิตแชมเปญในประเทศฝรั่งเศส (Comité Champagne) เพื่อผลักดันการนำผ้าจีไอไทย ที่เนื้อผ้ามีเอกลักษณ์และลวดลายสวยงาม ทั้งผ้าไหมยกดอกลำพูน ผ้าครามธรรมชาติสกลนคร และผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ไปใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าแชมเปญ ซึ่งเป็นอีกนโยบายสำคัญของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างความร่วมมือและสร้างโอกาสในการขยายตลาดสินค้าจีไอ ไทยไปยังต่างประเทศ ผ่านการจับคู่กับสินค้าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลก และในโอกาสนี้ ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความเห็นเกี่ยวกับการผลิต การทำการตลาด การควบคุมดูแลคุณภาพและชื่อเสียงของสินค้าแชมเปญ ตลอดจนการดำเนินการกับสินค้าแชมเปญปลอม เพื่อนำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ในการยกระดับคุณภาพสินค้า GI ให้ได้คุณภาพทัดเทียมระดับสากล”
“ปัจจุบันไทยมีสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในประเทศแล้วทั้งสิ้น 179 รายการ โดยเป็นสินค้าไทย 161 รายการ และสินค้าต่างประเทศ 18 รายการ รวมถึงแชมเปญและคอนยัคฝรั่งเศส และไทยยังมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในสหภาพยุโรป ซึ่งครอบคลุมถึงประเทศฝรั่งเศส เช่น กาแฟดอยช้าง กาแฟดอยตุง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ และข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง โดยที่ผ่านมา สินค้าจีไอไทยสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้มากกว่า 42,000 ล้านบาท”