ธนาคารกลางฝรั่งเศส เดินหน้าพัฒนา 'ยูโรดิจิทัล' ระยะที่ 2

ธนาคารกลางฝรั่งเศส เดินหน้าพัฒนา 'ยูโรดิจิทัล' ระยะที่ 2

ธนาคารกลางฝรั่งเศส เดินหน้าพัฒนา 'ยูโรดิจิทัล' ระยะที่ 2 หลังพัฒนาCBDCภายใต้ระเบียบการโอนเงิน-กฎหมายควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลMiCA มุ่งรักษาบทบาทการเงินของธนาคารกลางในระบบเศรษฐกิจ ออกแบบเทคโนโลยีการชะรำเงินแบบ DL3S ทดสอบต้นแบบยูโรดิจิทัลในโครงการนำร่องปี 2566

เว็บไซต์ cointelegraph.com รายงานว่า นายฟรังซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลฮาว ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส (Banque de France) เปิดเผยว่า การทดลองระยะแรกของ Wholesale ยูโรดิจิทัล เสร็จสิ้นแล้ว และการทดลองระยะที่ 2 จะเริ่มในปีนี้  ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวการทดลองใหม่สี่หรือห้าครั้ง 

นายธนาคารกลางฝรั่งเศสพูดที่งาน Paris Europlace International Finance Forum ถึงความสำเร็จของสหภาพยุโรปในการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยกล่าวถึง ระเบียบการโอนเงิน (Travel Rule) และ Markets in Crypto-Assets (MiCA) กฎหมายที่ครอบคลุมของสหภาพยุโรปสำหรับการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ

หน่วยงานด้านการเงิน Eurosystem กำลังมองหาขอบเขตและการออกแบบของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางยูโรดิจิทัล (CBDC) โดยเหตุผลหลักสำหรับเงินยูโรดิจิทัลสำหรับรายย่อย คือ การรักษาบทบาทของเงินของธนาคารกลางในระบบเศรษฐกิจ แม้ว่าจะถูก “คุกคามจากการปฏิวัติทางดิจิทัล”

ทั้งนี้ Eurosystem ไม่ควรมีบทบาทในการจัดการการถือครองเงินยูโรดิจิทัล ซึ่งธนาคารกลางฝรั่งเศสปิดบัญชีลูกค้าส่วนตัวล่าสุดเมื่อ 20 ปีที่แล้วและไม่มีความตั้งใจที่จะเปิดอีกครั้ง

CBDC แบบ wholesale มีขึ้นเพื่อใช้สำหรับการโอนเงินระหว่างธนาคาร ตามที่วิลเลอรอย เดอ กาลฮาวกล่าว โดยเขาอ้างถึงกรณีการใช้งานที่สำคัญของการชำระราคาหลักทรัพย์ที่ออกด้วย digital ledger technology (DLT) เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ และการชำระเงินข้ามพรมแดนและข้ามสกุลเงิน 

โดยธนาคารกลางฝรั่งเศสได้ออกแบบเทคโนโลยี digital ledger ที่เป็นกรรมสิทธิ์ ซึ่งเรียกว่า DL3S สำหรับระบบในอนาคตที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ยังผลิตแพลตฟอร์มผู้ดูแลสภาพคล่องอัตโนมัติ โดยอิงจากรูปแบบการเงินแบบกระจายศูนย์ ซึ่งสามารถดำเนินการ การชำระราคาหลักทรัพย์ของCBDC ได้หลายรายการ

อย่างไรก็ตราม การทดลองใหม่เพื่อทดสอบต้นแบบยูโรดิจิทัลกับธนาคารพาณิชย์และธนาคารกลางอื่น ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินการตามระบอบการนำร่องในปี 2566

วิลเลอรอย เดอ กาลฮาว เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่าง DLT กับระบบดั้งเดิม DLT จะเสริมแทนที่จะแทนที่โครงสร้างพื้นฐานแบบเดิม