'เซลเซียส เน็ตเวิร์ก' ยื่นล้มละลาย หลังชำระหนี้ DeFi กว่า 800 ล้านดอลลาร์
'เซลเซียส เน็ตเวิร์ก' ยื่นล้มละลายต่อศาลในบทที่ 11 หลังชำระหนี้ DeFi กว่า 800 ล้านดอลลาร์ เผยมีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 ราย ในคำร้อง ขณะนี้ถือเงินสดในมือ 167 ล้านดอลลาร์ เพื่อรักษาสภาพคล่องให้บริษัท
บริษัท เซลเซียส เน็ตเวิร์ก (Celsius Network) ประกาศในวันที่ 13 ก.ค.2565 ว่า บริษัทได้เริ่มการดำเนินการตามบทที่ 11 ด้วยความสมัครใจ เพื่อให้บริษัทมีโอกาสที่จะรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ และบรรลุข้อตกลงในการปรับโครงสร้างใหม่ที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าสูงสุดสำหรับนักลงทุนทั้งหมดผ่านการดำเนินการปรับโครงสร้างใหม่
รวมทั้งบริษัทในเครือบางแห่งได้ยื่นคำร้องโดยสมัครใจสำหรับการปรับโครงสร้างองค์กรภายใต้บทที่ 11 แห่งประมวลกฎหมายล้มละลายของสหรัฐอเมริกา ในศาลล้มละลายของสหรัฐอเมริกาสำหรับเขตทางใต้ของนิวยอร์ก
เซลเซียส รายงานว่ามีเจ้าหนี้มากกว่า 100,000 รายในคำร้อง โดยคำร้องระบุว่า Pharos USD Fund SP และ Pharos Fund SP เป็นเจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันรายใหญ่ที่สุด ขณะที่เจ้าหนี้รายอื่นที่มีชื่อ ได้แก่ ICB Solutions, The Caen Group LLC, Alameda Research, B2C2 และ Covario AG เป็นต้น
อเล็กซ์ มาชินสกี้ ผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้บริหารของเซลเซียส กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องสำหรับชุมชนและบริษัท จากการมีทีมงานที่แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำ หากมองย้อนกลับไปที่ประวัติของเซลเซียส จะพบการดำเนินการด้วยความตั้งใจแน่วแน่ และมั่นใจให้บริการชุมชน และเสริมสร้างอนาคตของบริษัท
ก่อนหน้านี้เซลเซียสได้ชำระหนี้ DeFi ล่าสุดกับทาง Compound, Aave และ Maker โดยลดหนี้จากจำนวนเริ่มต้นทั้งหมด 820 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เหลือเพียง 0.013 ดอลลาร์ในปัจจุบัน
ขณะนี้ เซลเซียสมีเงินสดในมือ 167 ล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าจะทำให้มีสภาพคล่องเพียงพอ เพื่อรองรับการดำเนินการบางอย่างในระหว่างกระบวนการปรับโครงสร้างใหม่ที่กำลังจะมาถึง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบชะตากรรมของผู้ฝากเงินที่ยังคงมีทรัพย์สินถูกขังอยู่ในแพลตฟอร์มการให้กู้ยืม ซึ่งทั้งบริษัท และผู้บริหารอย่าง อเล็กซ์ มาชินสกี้ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับว่าผู้ฝากเงินจะได้รับเงินคืนอย่างไร
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์