วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (14 ก.ค. 65)

+ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส (WTI) ปิดบวก จากแรงซื้อเข้ามาในตลาด หลังราคาน้ำมันร่วงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังสต็อกน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเกินคาด ท่ามกลางความตึงเครียดในตลาด รวมทั้งแรงกดดันจากความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าคาด

- ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 9.1% ในเดือน มิ.ย. เนื่องจากราคาน้ำมันและอาหารยังคงสูงขึ้น เพราะราคาพลังงานยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ย 75 จุดในปลายเดือนนี้ ตามที่ประกาศมาแล้วก่อนหน้านี้

- อุปทานน้ำมันดิบโลกยังคงตึงตัว ท่ามกลางการซื้อขายน้ำมันดิบจริง (Physical cargo) สำหรับเกรดต่างๆ ทั่วโลก เช่น น้ำมันดิบ Forties (ทะเลเหนือ) และน้ำมันดิบ U.S. Midland (สหรัฐฯ) ที่ยังมีการซื้อขายที่ระดับสูงกว่าราคาอ้างอิง (Crude premium) ทั้งนี้เนื่องจากผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลถึงอุปทานที่ยังตึงตัว เนื่องจากผู้ผลิตหลายรายยังมีปัญหาในการผลิต และยังไม่สามารถผลิตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ปรับตัวลดลงมากกว่าน้ำมันดิบดูไบ ในขณะที่ความต้องการน้ำมันเบนซินของอินเดียคาดว่าจะลดลงในเดือนกรกฎาคมหลังจากเกิดน้ำท่วมในหลายรัฐ

ราคาน้ำมันดีเซล

ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการน้ำมันดีเซลในอินเดียที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หลังเริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุม ความต้องการมีแน้วโน้มถูกกดดันเล็กน้อย