ประชาชนผวาค่าไฟพุ่ง 5 บาท/หน่วย! ซ้ำเติมค่าครองชีพ

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. อยู่ระหว่างพิจารณาทบทวน การปรับเพิ่มค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที งวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2565 ซึ่งมีแนวโน้มพุ่งสูงถึง 90-100 สตางค์ต่อหน่วย อาจทำให้ค่าไฟฟ้าต้องปรับเพิ่มสูงถึง 5 บาท/หน่วย จากปัจจุบันค่าไฟอยู่ที่ 4 บาท/หน่วย

เนื่องจากต้นทุนค่าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี นำเข้าเพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และยังมีแนวโน้มราคาแพงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพ.ค. จนถึงปัจจุบัน ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. แบกรับแทนประชาชนอีกกว่า 80,000 ล้านบาท ในงวดก่อนหน้า กกพ. อาจจะต้องเข้าไปช่วยลดภาระต้นทุนผ่านการทยอยปรับเพิ่มค่าเอฟที

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นประชาชนบอกว่า ได้รับผลกระทบอย่างมากจากค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่แพงขึ้นทุกอย่าง ค่าแก๊สหุงต้ม ค่าไฟฟ้าก็กำลังจะปรับขึ้นอีกอยากให้ภาครัฐดูแลลดภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นไม่ให้ซ้ำเติมประชาชน ออกมาตรการเยียวยาให้ถูกจุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนได้จริง ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด

ด้านหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย สุพันธุ์ มงคลสุธี  ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราค่าไฟฟ้าเฉียดระดับ 5 บาท/หน่วย จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เพราะต้นทุนค่าไฟฟ้าเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิตของประชาชนทุกภาคส่วนแพงขึ้นประมาณ 10-20% จึงส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าครองชีพ และปัจจุบัน ค่าไฟฟ้าของไทยอยู่ที่ 4 บาท/หน่วย ก็แพงอยู่แล้ว หากปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอีก จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปีนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ค่าไฟฟ้า ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญของสินค้า และบริการต่างๆ เมื่อต้นทุนค่าครองชีพขยับขึ้น มีโอกาสทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นไม่หยุดจากล่าสุดเดือนมิถุนายน 2565 อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 7.66% หากค่าไฟฟ้าแพงขึ้นแต่รายได้ของประชาชนยังอยู่ในระดับต่ำไม่สอดคล้องกับรายจ่าย หรือค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น  ‘ค่าไฟฟ้าแพง’ จึงเป็นปัจจัยที่ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยให้เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างแน่นอน

ทีมข่าวเนชั่นทีวี รายงาน

พิสูจน์อักษร  โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์