อุตฯ การบินฟื้นครึ่งปีหลัง เปิดประเทศหนุนเที่ยวบินโต 41%
วิทยุการบินฯ คาดการณ์เที่ยวบินปีนี้จ่อฟื้นตัว 41% หลังนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบหนุนการเดินทางพุ่งต่อเนื่อง กพท.ระบุอุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวอย่างชัดเจนในรอบกว่า 2 ปี
เปิดประเทศเต็มรูปแบบตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 โดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีมติให้ “ยกเลิกระบบ Thailand Pass” และยกเลิกการบังคับนักท่องเที่ยวต่างชาติทำประกันสุขภาพ กำหนดเพียงนักท่องเที่ยวต่างชาติแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีน (Certificate of Vaccination) หรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบด้วยวิธีตามที่กำหนด ในกรณีที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบโดส
มาตรการดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการบินที่กลับมาฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งนอกจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยเพื่อท่องเที่ยวอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ยังส่งผลต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศคึกคัก จากการตัดสินใจเดินทางของคนไทย ที่ประจวบเหมาะกับช่วงเดือน ก.ค.นี้ มีวันหยุดยาวติดต่อจำนวนมาก
ณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด หรือ บวท. ออกมาเปิดเผยถึงสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินในช่วงครึ่งปีหลัง จากปัจจัยการเปิดประเทศย่างเต็มรูปแบบนี้ว่า บวท.คาดการณ์หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เที่ยวบินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป และจะเติบโตสูงสุดในรอบ 2 ปี ช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ซึ่งเป็นฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น)
โดยการฟื้นตัวจะเริ่มต้นในเดือน ก.ค.นี้ จากการที่รัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมาตรการเดินทาง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา ทำให้การเดินทางมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย. ซึ่งมีเที่ยวบินเฉลี่ย 1,374 เที่ยวบินต่อวัน เบื้องต้น บวท.ประเมินว่าในเดือน ก.ค.นี้ จะมีปริมาณเที่ยวบินเฉลี่ย 1,437 เที่ยวบินต่อวัน
ประกอบกับในเดือน ก.ค.นี้ มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 2 ช่วง คือ ระหว่างวันที่ 13 - 17 ก.ค.2565 และ 28 - 31 ก.ค. 2565 ทำให้มีการเดินทางเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย โดยคาดว่าช่วงดังกล่าวจะมีเที่ยวบินประมาณ 1,450 - 1,480 เที่ยวบินต่อวัน นับเป็นสัญญาณบวกของการฟื้นตัวในอุตสาหกรรมการบิน และคาดว่าในเดือน ก.ค.- ส.ค.นี้ จะเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เที่ยวบินจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป
โดยเที่ยวบินภายในประเทศยังคงมีสัดส่วนมากกว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในแต่ละประเทศมีความรุนแรงในระดับที่แตกต่างกัน รวมทั้งนโยบายการอนุญาตให้เดินทางเข้า-ออกประเทศ ของแต่ละประเทศยังแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อปริมาณเที่ยวบินระหว่างประเทศยังไม่กลับมาในสถานการณ์ปกติ
ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทยหากการดำเนินนโยบายเปิดประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น คาดการณ์ว่าปี 2565 นี้ จะมีเที่ยวบินรวม 430,000 เที่ยวบิน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับปี 2564 จะมีปริมาณเพิ่มขึ้น 41% อ้างอิงจากข้อมูลของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่สรุปปริมาณเที่ยวบินในปี 2564 รวมจำนวน 257,948 เที่ยวบิน
กิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เผยว่า ในเดือน ก.ค.2565 มีวันหยุดยาวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดการณ์ว่าในช่วงวันดังกล่าว จะมีผู้โดยสารทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 90,000 คน และมีเที่ยวบินโดยสารเฉลี่ยวันละ 580 เที่ยวบิน
อย่างไรก็ดี ทอท.ได้อำนวยความสะดวกผู้โดยสาร เปิดใช้งานเคาน์เตอร์เช็คอินรองรับการให้บริการของสายการบินครบทั้ง 318 เคาน์เตอร์ รวมทั้งมีระบบเช็คอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service หรือ CUSS) จำนวน 196 เครื่อง และระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag-Drop: CUBD) จำนวน 42 เครื่อง ส่วนของศักยภาพการตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เปิดใช้งานจุดตรวจหนังสือเดินทางขาเข้าระหว่างประเทศโซน 3 ซึ่งได้ปรับปรุงใหม่เสร็จเรียบร้อย
อีกทั้งยังมีบริการรถสาธารณะ อาคารและลานจอดรถรองรับที่เพียงพอ รวมที่จอดรถกว่า 8,000 ช่องจอด สามารถจอดได้ที่อาคารจอดรถ โซน 2 โซน 3 ลานจอดรถโซน 4 - 7 และลานจอดรถระยะยาวโซน A รวมถึงยังได้เปิดลานจอดรถระยะยาวโซน C ให้ผู้ใช้บริการได้จอดรถฟรีระหว่างวันที่ 12 – 18 ก.ค.นี้
ขณะที่การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินเริ่มส่งสัญญาณบวกในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 กพท.ในฐานะหน่วยงานกำกับการบิน ออกมาคาดการณ์ว่าในปีนี้ อุตสาหกรรมการบินจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในรอบกว่า 2 ปี นับจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย กพท.ประเมินสมมติฐานไว้ 3 กรณี คือ กรณีที่มีการฟื้นตัวดี สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกเริ่มดีขึ้นและสามารถกระจายวัคซีนได้อย่างทั่วถึง ในปี2565 จะมีผู้โดยสารภายในประเทศจำนวน 68,269,320 คนและผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 30,684,356 คน
ขณะที่กรณีการฟื้นตัวปกติ คือ สามารถกระจายวัคซีนได้อย่างทั่วถึงภายในกลางปี 2565 กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ เช่น จีน อินเดีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฯลฯ ยังคงมีมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศอยู่บางส่วน และกลุ่มประเทศยุโรปเริ่มเข้ามามากขึ้น และประเทศไทยสามารถกระจายวัคซีนเข็มที่ 3-4 ได้อย่างทั่วถึงภายในปี 2565 และไม่มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม จะมีผู้โดยสารภายในประเทศจำนวน 58,956,456 คนและผู้โดยสารระหว่างประเทศจำนวน 22,500,043 คน
ส่วนกรณีการฟื้นตัวช้า คือ ยังคงมีการแพร่ระบาดเพิ่มเติมทั่วโลกหรือมีไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ระบาดอีกครั้ง ผู้โดยสารฟื้นตัวกลับมาในบางตลาดที่มีศักยภาพ กรณีนี้ กพท.ประเมินว่าผู้โดยสารภายในประเทศจะยังคงเพิ่มขึ้นคล้ายกับกรณีการฟื้นตัวปกติ จำนวน 58,956,456 คน ส่วนผู้โดยสารระหว่างประเทศ คาดจำนวน 15,536,559 คน