10 เหรียญ ‘คริปโท’ ที่นักลงทุนไทยนิยมเทรด ในปี65
10 เหรียญ ‘คริปโท’ นักลงทุนไทยนิยมเทรด ปี 2565 โดยตลาดคริปโทเคอรร์เรนซี่ในช่วงที่มีราคาปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนบางคนไม่สามารถทำกำไรในระยะสั้นได้ เนื่องจากราคาที่มีความผันผวนสูงมาพร้อมกับความเสี่ยงสูงเช่นกัน
โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. เปิดเผยมูลค่าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสะสมในปี 2565 ซึ่มีสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซี่ 10 อันดับ ดังนี้
TETHER ( USDT)
TETHER ครองสัดส่วน 14.65% มีมูลค่าการซื้อขายสะสม 1 แสนล้านบาท USDT เป็น สเตเบิลคอยน์หรือ สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าคงที่ ที่ออกโดยบริษัท Tether ในฮ่องกง เหรียญ USDT นั้น ได้ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ฃเพื่อลดช่องว่างระหว่างสกุลเงินเฟียตและสกุลเงินดิจิทัล โดยนำเสนอราคาที่คงที่และเทียบเท่ากับเหรียญหรือโทเคน ซึ่งราคาของ 1 USDT มีมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์
หลังจากที่เกิดสถานการณ์ LUNA ล่มสลาย ทำให้นักลงทุนต่างตั้งคำถามว่า เหรียญสเตเบิลคอยน์ มั่นคงตามชื่อหรือไม่ แต่ความมั่นคงที่เหรียญยังคงมีสเถียรภาพในตัวของมันเอง พร้อมทั้งทำกำไรในกับนักลงทุนในช่วงที่เงินบาทอ่อนค่าสูงสุดในรอบ 10 กว่าปีในขณะนี้ ที่ขึ้นแตะ 36.7 ดอลลาร์ต่อ 1 บาท
BITCOIN (BTC)
บิตคอยน์ เหรียญอันดับ 1 ที่ครองวอลุ่มการเทรดทั่วโลก ครองสัดส่วนในประเทศไทยใกล้เคียง USDT มาอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน มิ.ย.2565 บิตคอยน์ ครองสัดส่วน 11.87% มีมูลค่าการซื้อขายสะสม 8.44 หมื่นล้านบาท
แม้ว่าตอนนี้นักลงทุนยังคงตั้งคำถามว่า ใกล้ถึงจุดต่ำสุดของราคาบิตคอยน์หรือยัง และรอเวลาปรับฐาน เนื่องจากราคาบิตคอยน์ในเดือน ก.ค2565 ปรับลดลงมาอยู่ที่แนวรับ 20,000 ดอลลาร ซึ่งลดลงกว่า70% จากจุดสูงสุดในเดือน พ.ย.2564 แต่ก็เป็นระดับราคาที่น่าสนใจในการเข้าลงทุน เพื่อรอปีทองของบิตคอยน์ในปี2524 ตามการ ‘having bitcoin’
Ethereum (Eth)
อีเธอเรียมครองสัดส่วน 7.76% มีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี 2565 จำนวน 5.52 หมื่นล้านบาทเป็นเหรียญดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนทำงานอยู่เบื้องหลัง พร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่การสร้างแอปฯ ธุรกรรมออนไลน์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจแบบ Decentralize รวมทั้งหลายๆเหรียญคริปโทก็ทำงานอยู่บนบล็อกเชนนี้ จึงเป็นที่สนใจสำหรับนักลงทุนและนักพัฒนาซอร์ฟแวร์จำนวนมาก
เมื่อไม่นานมานี้ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘The Merge’ หรือ Ethereum 2.0 คือ การเปลี่ยนวิธีการตรวจสอบธุรกรรมจากกลไก Proof-of-Work (PoW) เป็นกลไก Proof-of-Stake (PoS) เนื่องจากระบบ Proof-of-Work ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการตรวจสอบธุรกรรม
ดังนั้น Ethereum จึงเปลี่ยนระบบเป็น Proof-of-Stake เพราะสามารถลดพลังงานไปได้มากถึง 90% เมื่อเทียบกับกลไกเดิม โดนคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนนี้ ทำให้นักลงทุนต่างจับตาดูราคาที่อาจปรับขึ้นจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตลาดอยู่ในขาลงก็ตาม
GALA
GALA ครองสัดส่วน 6.54% มีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี2565 จำนวน 4.65 หมื่นล้านบาท โดยเหรียญ GALA สร้างขึ้นตามมาตรฐาน ERC-20 บน Ethereum Blockchain นอกจากนั้น ยังมีมาตรฐาน BEP-20 บน Binance Smart Chain โดยเหรียญ GALA สร้างขึ้นเพื่อใช้ในระบบนิเวศของ Gala Games ซึ่งมีแนวคิดว่าต้องการสร้างเกมบนบล็อกเชนที่สามารถเล่นได้จริง ผู้ใช้งานสามารถใช้เหรียญ GALA ในการแลกเปลี่ยนระหว่างกันบนแพลตฟอร์มได้
ถ้าหากถามว่าเหรียญนี้น่าลงทุนหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่อาจตอบคำถามนี้ได้คือการพัฒนาของตัวเกมที่จะสามารถดึงดูดผู้เล่นหรือสร้างประโยชน์ให้กับผู้เล่นในเกมเพียงใด รวมทั้งเทคโนโลยีเมตาเวิร์สที่เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมเกมไปพร้อมๆกัน
KUB COIN (KUB)
เหรียญคริปโทสัญชาติไทย KUB ครองสัดส่วน 6.01% มีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี2565 จำนวน 4.27 หมื่นล้านบาท ขณะนี้บริษัทมีบริษัทย่อยกว่า 9 บริษัท สามารถครอบคลุมเกือบทุกมิติของธุรกิจเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น บิทคับเชน บิทคับอะคาเดมี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ‘Bitkub Metaverse’ ที่กำลังจะเปิดขายในเดือน ก.ย.2565 นี้ รวมทั้งการขยายฐานการผลิตไปในเวียดนามและในกลุ่มอาเซียนในอนาคต รวมทั้งการเป็นผู้สนับสนุนกิจกรรมต่างๆในประเทศไทย
เหรียญ KUB เคยทำราคาสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แตะที่ระดับราคาสูงกว่า 500 บาท ในช่วงปีทองของบิตคอยน์รวมทั้งกระแสดีลยานแม่ บล.ไทยพาณิชย์ หรือ SCB เข้าซื้อบริษัทบิทคับออนไลน์ ทำให้นักลงทุนที่ถือเหรียญนี้จับต่างตามอง
NEAR
NEAR ครองสัดส่วน 5.2% มีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี2565 จำนวน 3.69 หมื่นล้านบาท โดย NEAR เป็น Token ตัวแรกของระบบ Near Protocol โดยเหรียญ Near มีจำกัดอยู่ที่ 1,000,000,000 Near ปัจจุบันเกิดขึ้นมาแล้วกว่า 600 ล้าน NEAR เคยทำ All time high ไปเมื่อช่วงเดือนมกราคา 2564 อยู่ที่ระดับ 17.60 ดอลลาร์ หรือ 633.6 บาท
NEAR Protocol เป็นแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันกระจายอำนาจ (dApp) ที่หลายคนมองว่าสามารถเข้ามาแทนที่หรือเทียบเท่าบล็อกเชนอีเธอเรียมได้ ที่เรียกว่า Ethereum Killer จากจุดแข็งที่มุ่งเน้นไปที่นักพัฒนาและความเป็นมิตรกับผู้ใช้ ในด้านความปลอดภัย และเป็น Smart Contract ที่ใช้กลไก Proof-of-Stake (PoS) และใช้เทคโนโลยี ‘Sharding’ เพื่อให้สามารถประมวลผลได้รวดเร็วอีกด้วย ทั้งนี้เหล่านักพัฒนาให้ความสนใจมากน้อยแค่ไหน หรือการออกโปรเจกต์ต่าง ๆ ในอนาคต ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อราคาเหรียญ Near ได้
IOST
IOST ครองสัดส่วน 2.32% มีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี2565 จำนวน 1.65 หมื่นล้านบาท โดยเหรียญ IOST ย่อมาจากคำว่า Internet of Service Token ซึ่ง เหรียญ IOST คือ เหรียญที่ใช้สำหรับการใช้จ่ายและใช้เป็นค่า Gas ภายในแพลตฟอร์มของ IOST นอกจากนี้ยังเป็นเหรียญที่ใช้เป็นรางวัลสำหรับผู้ที่เป็น Node อีกด้วย โดยมี Max Supply อยู่ที่ 90,000,000,000 เหรียญ ซึ่งในปัจจุบันมีการผลิตออกมาแล้วทั้งหมด 18,099,719,631 เหรียญ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565
สำหรับในปัจจุบันโครงสร้างสถาปัตยกรรมของบล็อกเชนกำลังเผชิญปัญหาด้านค่าใช้จ่ายที่สูง เวลาในการทำธุรกรรมที่นาน และปริมาณงานที่สามารถประมวลผลได้ต่ำ
JFIN
JFIN Coin ครองสัดส่วน 1.71% มีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี2565 จำนวน 1.21 หมื่นล้านบาท โดยเหรียญ JFIN เป็นคริปโทสัญชาติไทยที่สร้างขึ้นในปี 2561 โดยบริษัทในกลุ่ม Jaymart เกิดจากการระดมทุนด้วยวิธี Initial Coin Offering (ICO) เพื่อเสนอขายโทเคนดิจิทัล JFIN เป็นโทเคนยูทิลิตี้สำหรับระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ของ J Ventures
ทั้งนี้ JFIN พยายามที่จะพัฒนาเหรียญให้ความการเติบโต ล่าสุดมีการสร้าง JFIN Chain โดยที่ผู้เหรียญสามารถนำเหรียญมา Stake แล้วได้ส่วนแบ่งค่าแก๊สจากการทำธุรกรรมบน JFIN Chain ในวันที่ 17 เดือน ก.ค.2565 และสามารถเริ่ม Stake บน JFIN Chain ได้ตั้งแต่ 18 ก.ค. 2565 เวลา 9:00 น. เป็นต้นไป
Curve Dao Token (CRV)
CRV ครองสัดส่วน 1.65 % มีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี2565 จำนวน 1.17 หมื่นล้านบาท โดยเหรียญ CRV เป็นเหรียญหลักของแพลตฟอร์ม Curve ที่ใช้ในการเป็นค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม เป็นรางวัลที่จ่ายให้ผู้ที่ล็อคเหรียญไว้ในระบบ และยังเป็น Governance token ที่มอบอำนาจให้ผู้ถือสามารถเสนอนโยบายสำหรับการพัฒนาแพลตฟอร์ม รวมถึงมองสิทธิ์ในการโหวตสนับสนุนนโยบายเหล่านี้อีกด้วย
Curve กำหนดให้มีเหรียญ CRV ได้ทั้งหมด 3,303,030,299 เหรียญ และ ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2021 มีเหรียญหมุนเวียนอยู่ในตลาดประมาณ 273,444,536 เหรียญ
RIPPLE ( XRP)
XRP ครองสัดส่วน 1.45% มีมูลค่าการซื้อขายสะสมปี2565 จำนวน 1.03 หมื่นล้านบาท โดย XRP ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Ripple Labs, Inc. หรือที่เรียกกันว่า “Ripple” สร้างเพื่อใช้ลดปัญหาตัวกลางในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ เพิ่มความรวดเร็วในการทำธุรกรรมและลดปัญหาค่าธรรมเนียมที่สูง
แม้ว่า บริษัท Ripple ผู้ผลิต XRP จะถูกSEC สหรัฐฯ ที่ได้กล่าวหาว่าเหรียญ XRP คือหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างถูกต้อง เนื่องจากการขาย XRPที่บริษัทเก็บไว้กว่า 80% ออกสู่ตลาด โดยเป็นเงินกำไรมหาศาลเข้าสู่บริษัท พร้อมสถาบันการเงินต่าง ๆ ทั่วโลกที่ได้ร่วมมือกับ Ripple เพื่อพัฒนาระบบการเงินของตัวเอง XRP จึงเป็นเหรียญที่ติดอันดับ Top 10 ของตลาดคริปโทเคอร์เรนซี
อย่างไรก็ตาม ราคาตลาดคริปโทปรับลดลง เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวบัญชีของนักลงทุนสายเลือดบล็อกเชนในประเทศไทย จากตัวเลขบัญชีในเดือน มิ.ย. 2565 ลดลง 68.9% อยู่ที่ 3.29 แสนบัญชี จากเดือน พ.ค.2565 ที่มีบีญชีที่เคลื่อนไหว 5.56แสนบัญชี และมีปริมาณการซื้อขายลดลง 47.2% อยู่ที่ 7.2 หมื่นล้าน จากเดือนก่อนอยู่ที่ 1.06 แสนล้านบาท
อ้างอิง: สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, คอยน์มาเก็ตแคป