คำต่อคำ! ซีอีโอ "Zipmex" เผย จะเอาเงินคืนลูกค้าให้ได้ แม้จะขายบริษัทก็ตาม
คำต่อคำ! ซีอีโอ "Zipmex" แถลงกรณีระงับซื้อขาย-ถอนเหรียญ บนกระดาน Zipmex เป็นการชั่วคราว ยืนยันจะเอาเงินกลับมาคืนลูกค้าให้ได้ แม้จะมาจากการขายบริษัทก็ตาม
กรณี Zipmex ประกาศระงับซื้อขาย-ถอนเหรียญเป็นการชั่วคราว เมื่อ 17.00 น. ของวันที่ 20 ก.ค.65 และ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ซีอีโอ บริษัท ซิปเม็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ไลฟ์สดชี้แจง
“จะทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าใน Zipup+ กลับคืนมาให้ได้หมด แม้ว่าจะเป็นการขายบริษัท หรือเป็นการได้เงินกลับมา หรือฟ้องทางคดีความได้เงินกลับมา
..ยังไงก็ตาม สินทรัพย์ดิจิทัลและเงินของลูกค้าต้องมาก่อน”
โดย “กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” ได้ถอดคำต่อคำ ของ ดร.เอกลาภ มาไว้ ณ ที่นี้...
"จากกรณีที่ Zipmex ระงับการถอนเงินบาทและสินทรัพย์ดิจิทัล ผมขออนุญาตชี้แจงว่า ตอนนี้บริษัทประสบปัญหากับตัวผลิตภัณฑ์ ZipUp+ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าในประเทศไทยฝากไปที่ Zipmex Global ที่สิงคโปร์ โดยที่คู่ค้าของ Zipmex Global ประสบปัญหาสภาพคล่อง และส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ใน ZipUp+ อย่างเดียว
ปัญหาสภาพคล่องนั้นเกิดขึ้น กับ บาเบลไฟแนนซ์ และ เซลเซียส ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะ “บิตคอยน์” (BTC) , “อีเธอเรียม” (ETH) , USDT และ USDC มีปัญหาอยู่
แต่สินทรัพย์ดิจิทัลและเงินบาทที่อยู่ใน Trade wallet ไม่มีปัญหา ลูกค้ายังฝากยังถอนได้ตามปกติ เทรดได้ทุกอย่างเหมือนเดิม"
(โพสต์ระงับการซื้อขาย เมื่อเวลา 17.02 น. วันที่ 20 ก.ค.65)
"สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ ณ เวลา 20.00 น. เราจะเปิดแพลตฟอร์มกลับไปยังปกติ แต่การโอนสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างตัว Z wallet กับ Trade wallet จะระงับเป็นการชั่วคราวไปก่อน
ขอย้ำว่า Trade wallet คือ บัญชีที่ลูกค้าเอาไว้เทรด ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินบาทที่ฝากอยู่ในนั้น ยังปลอดภัยอยู่ ยังฝากถอนได้เหมือนเดิม ส่วน Z wallet ไม่มีเงินบาทอยู่ในนั้น
สิ่งแรกที่ Zipmex Thailand และที่ผมทำ ในฐานะเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Zipmex ก็ต้องดำเนินเรื่องคดีความ ฟ้องร้องกับทาง Zipmex Global และทางคู่ค้าอย่าง บาเบลไฟแนนซ์ และ เซลเซียส เพื่อเอาสินทรัพย์ดิจิทัลกลับคืนมาให้กับลูกค้าให้ได้
อัพเดท (22 ก.ค.65) : ZIPMEX แจง ไม่มีแผนฟ้อง Zipmex Global พร้อมหารือ Babel - Celsius คืนเงินลูกค้า
ทาง Zipmex Thailand พร้อมจะดำเนินคดีความและพร้อมจะดำเนินคดีความแบบกลุ่ม หรือ class action lawsuit ซึ่งลูกค้าจะมาร่วมด้วยก็ได้ โดย Zipmex เราจะออกค่าใช้จ่ายทางกฎหมายให้ทั้งหมด
เรื่องที่สำคัญที่สุด คือ เงินของลูกค้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าที่ Zipmex Thailand ต้องมาก่อน เราต้องทำทุกอย่าง ให้เอาคืนมาให้ได้
นอกจากนั้นเราก็มีการวางแผน ซึ่งมีการพูดคุยกับนักลงทุน กับบริษัทที่สนใจจะซื้อ Zipmex มาเป็นระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ และสนใจจะมาซื้อ ก็จะมีการพูดคุยต่อ และเงินที่จะมาซื้อบริษัทตรงนี้ ก็จะเอามาคืนให้กับลูกค้าทุกคน
พูดง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน ก็เหมือนเป็นการ Bailout เป็นการซื้อบริษัท เพื่อเอาเงินมาคืน ชำระลูกค้าให้เต็มที่ แต่ในกรณีที่คู่ค่าที่ผิดนัดชำระหนี้ เขาคืนเงินให้เราได้ เราก็จะคืนให้ลูกค้าเช่นเดียวกัน
อยากขอชี้แจงว่า นี่เป็นปัญหาที่เป็นเรื่องใหญ่กับทางตัวผมเอง และ Zipmex แล้วเราก็จะดำเนินเรื่องทางกฎหมายอย่างเต็มที่ เราได้มีการชี้แจง ก.ล.ต. ไปเรียบร้อยแล้ว ในขณะเดียวกัน เราก็จะแสดงความโปร่งใสให้กับลูกค้าตลอด
ตัวผมจะพยายามออกมาแถลงข่าวตลอด ถ้าทำได้ก็จะทำทุกวัน ในช่วงนี้ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกค้าก็จะได้รับทราบความคืบหน้า
ในฐานะตัวผมเองที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Zipmex Thailand ก็ต้องขอกราบขอโทษ และ ขออภัยเป็นอย่างสูงให้กับลูกค้าทุกท่าน ที่สร้างความผิดหวัง แต่ผมจะไม่นิ่งนอนใจ เพื่อที่จะทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าที่อยู่ใน Zipup+ กลับคืนมาให้ได้หมด ถึงแม้ว่าจะเป็นการขายบริษัท หรือเป็นการได้เงินกลับมา หรือฟ้องทางคดีความได้เงินกลับมา ยังไงก็ตามสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินของลูกค้าต้องมาก่อนตลอด"
ทั้งนี้ ตั้งแต่เมื่อเวลา 20.00 น.ที่ผ่านมา กระดานเทรดของศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Exchange) ของ Zipmex กลับมาทำการซื้อขายเหรียญดิจิทัลได้ตามปกติแล้ว หลังได้ระงับการถอนเหรียญ ประมาณ 2 ชั่วโมง โดยนักลงทุนสามารถซื้อขายเหรียญได้ทุกชนิด ยกเว้นการใช้งาน Z Wallet ที่อยู่ระหว่างการแก้ปัญหาเรื่องสภาพคล่อง
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของเหรีญ Zipmex Token (ZMT) ถูกแรงเทขายออกมาอย่างหนัก จนราคาดิ่งแรง ณ เวลา 22:08 น อยู่ที่ 13.65 บาท ลดลง 33%
(หมายเหตุ เพจ Zipmex Thailand ได้ไลฟ์การชี้แจงโดย ดร.เอกลาภ เมื่อเวลา 19.00 น. และภายหลังมีการลบโพสต์ไป)