เปิด 5 อันดับ ‘กองทุนยั่งยืน’ ขนาดใหญ่ที่สุดในไทย

เปิด 5 อันดับ ‘กองทุนยั่งยืน’ ขนาดใหญ่ที่สุดในไทย

"มอร์นิ่งสตาร์" เผย "การลงทุนอย่างยั่งยืน" รอบ 5 ปี Sustainability Index มีผลตอบแทนที่ 7.7% สูงกว่า Global Markets Index ที่ 7.4% และ 5 อันกับกองทุนยั่งยืนขนาดใหญ่สุดในไทย ครึ่งปีแรก 65 พบ กองทุน  KPSCGEQ   นำโด่ง AUM ที่ 10,143 ล้านบาท  ชูผลคอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง 18.82%              

ในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา "การลงทุนอย่างยั่งยืน"  มีผลตอบแทนไปในทิศทางเดียวกันกับ "ตลาดหุ้นทั่วโลก"   โดย มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)  พบว่า   "Morningstar Global Markets Sustainability Index"  มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่ต้นปี -21.1%  เทียบกับ Morningstar Global Markets Large-Mid Index -20.1%

ทั้งนี้ Sustainability Index มีผลตอบแทนที่แย่กว่าเล็กน้อยนั้นมีเหตุผลจาก มีส่วนของการลงทุนในหุ้นเติบโตมากกว่า และส่วนของหุ้น value ที่น้อยกว่า Global Markets Index นั่นเอง  

เปิด 5 อันดับ ‘กองทุนยั่งยืน’ ขนาดใหญ่ที่สุดในไทย

แต่อย่างไรก็ตาม "การลงทุนอย่างยั่งยืน"  ในรอบ 5 ปี  ต้องถือว่า " Morningstar Global Markets Sustainability Index"  มีผลตอบแทนที่ 7.7% สูงกว่าการลงทุนแบบ Morningstar Global Markets Large-Mid Index ที่ 7.4%

แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการลงทุนยั่งยืนที่นอกจากช่วยลดความเสี่ยง ESG แล้วยังสร้างผลตอบแทนได้ใกล้เคียงหรือดีกว่าการลงทุนโดยทั่วไปได้

ลองมาดูกันว่าปัจจุบัน  "กองทุนยั่งยืนขนาดใหญ่สุดในไทย"  5 อันดับแรก จะเป็นใคร? และมีคะแนนความยั่งยืน (Morningstar  Sustainability Rating) มากน้อยแค่ไหน? 

ข้อมูลจาก " มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)" ตั้งแต่ต้นปีจนถึง ณ 30 มิ.ย. 2565 พบดังนี้   

1.  กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน-A ชนิดสะสมมูลค่า (KPSCGEQ) มีมูลค่าทรัพย์สินรวม (AUM)  10,143 ล้านบาท

มีคะแนนความยั่งยืน  :  3 ลูกโลก                            ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง  :  18.82%

 

2. กองทุนเปิดธนชาต อีสท์สปริง Global Green Energy (T-ES-GGREEN)  มีมูลค่าทรัพย์สินรวม7,567  ล้านบาท                                       

มีคะแนนความยั่งยืน  :  5 ลูกโลก                             ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง  :  - 8.99%

 

3. กองทุนเปิดบัวหลวงยั่งยืน                               (B-SIP) มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 4,198  ล้านบาท       

มีคะแนนความยั่งยืน  :  5 ลูกโลก                            ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง  : -1.81%

 

4. กองทุนเปิดเค พอสซิทีฟ เชนจ์ หุ้นทุน ชนิดเพื่อการออม (K-CHANGE-SSF)  มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 3,114  ล้านบาท                                     

มีคะแนนความยั่งยืน  :  3 ลูกโลก                            ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง  :  27.89% 

 

5. กองทุนเปิดเค Climate Transition                    (K-CLIMATE) มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 2,328  ล้านบาท                                               

มีคะแนนความยั่งยืน  :  3 ลูกโลก                            ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้ง  : 11.18%

 

 

สำหรับภาพรวม "กองทุนยั่งยืน" ในช่วงครึ่งปีแรก 2565 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 5.4 หมื่นล้านบาท หดตัวลง 24.4% จากสิ้นปี 2564  และมีเงินไหลออกสุทธิเพียง 900 ล้านบาท   

ขณะที่ "กองทุนยั่งยืน" ที่ลงทุนในประเทศยังเป็นสัดส่วนที่น้อย ซึ่งเป็นกองทุนที่อยู่ในกลุ่มหุ้นไทยทั้งกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก คิดเป็นสัดส่วนเกือบราว 4%  ส่วนใหญ่ 96% เป็นกลุ่มหุ้นโลก 

เม็ดเงินไหลออก จากกองทุนยั่งยืนในปีนี้ถือว่ามีทิศทางเดียวกันกับในต่างประเทศที่มีเงินไหลเข้าชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่นในสหรัฐมีเงินไหลเข้าที่ชะลอตัวลงอย่างชัดเจนในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีเงินไหลออกในเดือนถัดมา ในขณะที่กลุ่มยุโรปที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนก็สะท้อนภาพเดียวกันคือมีเม็ดเงินชะลอตัวลงในรอบครึ่งแรกของปี 

นายนาวิน กล่าวว่า  แม้ตลาดการลงทุนจะมีความผันผวนมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้  ทำให้นักลงทุนเลือกที่จะขายหุ้นกลุ่มนี้ออกมาก่อนเพื่อทำกำไร ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลงและผลการดำเนินงานของกองทุนในช่วงที่ผ่านมาต่ำกว่าดัชนีชี้วัด   

ผู้จัดการกองทุนหลัก ยังคงเชื่อมั่นในศักยภาพของหุ้นทุกตัวในพอร์ตและไม่มีการปรับสัดส่วนใดๆ  พร้อมให้ความเห็นว่า ความผันผวนดังกล่าวไม่มีผลต่อการดำเนินงานของกองทุนในระยะยาว เนื่องจากบริษัทที่เลือกลงทุนล้วนมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสามารถปรับตัวได้ตามภาวะเศรษฐกิจ 

แนะนำว่า กองทุน K-CHANGE และ K-CLIMATE ยังสามารถถือต่อไปได้ โดยมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ในระยะสั้นอาจปรับตัวลง และจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไป  

สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถหาจังหวะทยอยเข้าลงทุนเพิ่มได้ในช่วงที่ NAV ปรับตัวลงเช่นนี้ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว  จากกก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ไม่ได้ถูกมากนัก