ตอน : ศึกชิง "เจ้ายุทธภพ" ถึงเวลาควรเปลี่ยนแปลง !

บทที่1.

ในวันที่จอมยุทธทุกท่านได้อ่าน เป็นวันที่จดหมายเหตุฉบับนี้ส่งล่วงหน้าหลายวัน ทุกท่านคงได้ทราบแล้วว่า ประมุขของยุทธจักร ยังเป็นคนเดิมหรือไม่ เพราะในวันที่ 19-22 เดือนนี้มี “เทศกาลชุมนุมจอมยุทธ์” เพื่อให้พรรคอื่นๆ ในยุทธจักรที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม มีโอกาส “วิพากษ์ วิจารณ์ ว่ากล่าว ผสมผสานด่าทอแถมท้าย” ว่า ประมุขของยุทธจักรและพรรคพวก ยังสมควรอยู่ในตำแหน่งหรือควรจะไปซะที โดยจะมีการยกมือลงคะแนนเสียงกันในวันที่ 23 (ซึ่งคาดว่า ก่อนและวันลงคะแนนเสียง จะมีกล้วย(ทรัพย์สิน เงินทอง) ปลิวสะพัดเพื่อให้จอมยุทธ์ลงคะแนนไว้วางใจให้ประมุขยุทธจักรยังอยู่ตำแหน่งต่อไป...(เหมือนทุกๆครั้งที่ผ่านมา!)

บทที่2.

ในแวดวงยุทธจักรตลอดยี่สิบปีที่ผ่าน บรรดาจอมยุทธที่ระดมรวบรวมกันตั้งพรรค เกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงในแวดวงยุทธจักร และมีประมุขของยุทธจักรผลัดกันขึ้นมาปกครองยุทธจักรกันหลายคน บางคนอยู่ได้นานแต่ส่วนมากอยู่ได้ไม่นาน 

จนกระทั่งเป็นครั้งแรกที่ในแวดวงยุทธจักร มีประมุขยุทธจักรเป็นจอมยุทธสตรี (ซึ่งได้รับการสนับสนุนอุ้มชูจากอดีตประมุขยุทธจักรผู้ที่เป็นพี่ชาย ที่ถูกขับออกจากยุทธจักรด้วย “กฏพิเศษของยุทธจักร” แต่อดีตประมุขยุทธจักรผู้นี้เป็นผู้ที่มีฝีมือล้ำเลิศ และไม่ยอมพ่ายแพ้ง่ายๆยังคงมีอิทธิพลครอบงำ แทรกแซงแวดวงยุทธจักรจวบจนถึงปัจจุบัน)

เมื่อถึงวันที่ยุทธจักรมีแนวโน้มว่าจะเกิดการนองเลือดครั้งใหญ่เมื่อ8 ปีที่ผ่านมา ประมุขยุทธจักรคนปัจจุบัน ซึ่งมีหน้าที่คุมกำลังชาวยุทธจักรจึงอาศัย“ลูกชุลมุน”ระดมสมัครพรรคพวกและชาวยุทธจักรที่สนับสนุน “ออกกฏพิเศษ” ล้มประมุขยุทธจักรสตรี จนตนเองสามารถขึ้นมาดำรงตำแหน่งประมุขยุทธจักรจนถึงปัจจุบัน

บทที่3.

ประมุขของยุทธจักรคนปัจจุบัน ไม่ได้มีฝีมือล้ำเลิศเหนือกว่าจอมยุทธทั้งมวล นอกจากสุดยอดเคล็ดวิชา “พยัคฆ์ คำราม” ใช้กระบวนท่าส่งเสียงข่มขวัญ ตีหน้าเข้มพร้อมส่งเสียงดังๆ สลับกับการบ่นพึมพำ

แต่ที่อยู่มาได้นานก็อาศัยจอมยุทธผู้พี่ทั้งสองเป็นฐานสนับสนุนประคับประคองให้อยู่ในตำแหน่งมาจนย่างเข้าปีที่ 8 ทั้งสามจอมยุทธ์ที่เป็นพี่น้องร่วมสาบาน ต่างพยายามที่จะหาและสร้างโอกาสเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดเท่าที่จะนานได้

ด้วยพลังฝีมือของพี่ใหญ่ที่ถือว่ากว้างขวางในแวดวงชาวยุทธกับพี่รองที่สุขุมลึกซึ้งยากคาดคะเน ถึงแม้ตัวประมุขยุทธจักรจะขัดแย้งกันบ้างกับพี่ใหญ่ แต่สายสัมพันธ์ของความเป็นพี่น้องร่วมสาบานก็ช่วยประคับประคองกันมาจนได้

ทั้งสามพี่น้องรู้ดีว่า ในแวดวงยุทธจักร การก้าวขึ้นเป็นประมุขปกครองยุทธจักร เป็นเรื่องยาก แต่การรักษาตำแหน่งเพื่อไม่ให้ถูกโค่นล้มนั้น ยากยิ่งกว่าหลายเท่า เพราะไม่ใช่เพียงอาศัยแค่ฝีมือหรือเคล็ดวิชาที่มี แต่ต้องอาศัยสรรพกำลังโดยเฉพาะ “ทุนทรัพย์” ที่ต้องมีต้องใช้ต้องเตรียมไว้ให้เพียงพอกับบรรดาจอมยุทธที่หิวโหยที่จะสนับสนุนก็ต่อเมื่อได้ร่วมอิ่มหมีพีมันเสพสุขลาภ ยศ ตำแหน่ง สมประโยชน์จึงสนับสนุน

ทั้งสามพี่น้องยังต้องใช้ “สายสัมพันธ์” เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร ไปจนถึงกระชับมิตรให้เป็นผู้สนับสนุนแบบถึงไหนถึงกัน ไหนจะต้องคอยเอาอกเอาใจชาวยุทธจักรเป็นระยะๆด้วยการ “สรรหามาให้ แจกเอาใจชาวยุทธ” ด้วยสารพัดวิธีเพื่อให้ชาวยุทธทั้งมวลสนับสนุนต่อเนื่อง

บทที่4.

บรรดาจอมยุทธที่เป็นศัตรูกับสามพี่น้องที่ปกครองยุทธจักร มิใช่มีเพียงจอมยุทธที่เป็นคู่แค้นที่ถูกขับออกจากยุทธจักร ยังมีจอมยุทธรุ่นเยาว์ที่เกาะกลุ่มสร้างแรงสั่นสะเทือนเป็นระยะเพราะต้องการพลิกโฉมเปลี่ยนแปลงยุทธจักร 

ปัญหาอยู่ที่บรรดาจอมยุทธรุ่นเยาว์ทั้งที่รวมกันตั้งพรรคและอีกหลายส่วนที่ไม่ได้อยู่ในพรรค ต่างต้องการเปลี่ยนแปลงพลิกโฉมที่มากเกินไปในสายตาจอมยุทธจำนวนมาก จึงไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก

สามพี่น้องที่ปกครองยุทธจักร มาเป็นระยะเวลาเกือบ8ปี จากที่เคยได้รับการสนับสนุนจากชาวยุทธเป็นจำนวนมาก เริ่มได้รับการสนับสนุนน้อยลง เพราะ ชาวยุทธเริ่มเห็นว่า สิ่งที่ ประมุขของยุทธจักรเคยประกาศไว้ในช่วงที่รับตำแหน่ง....ยังไม่มีอะไรที่ทำให้แวดวงยุทธจักรดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นในระยะเวลายาวนานถึงเกือบ 8 ปี!

บรรดาพรรคพวกหลายก๊กหลายเหล่าที่ร่วมปกครองยุทธจักร ยังเป็นจอมยุทธหน้าเดิมๆที่ชาวยุทธต่างรู้ใส้รู้พุงว่ามาร่วมปกครองเพื่อประโยชน์ของชาวยุทธทั้งมวล หรือ ประโยชน์ของตนเองกับพวกพ้องเท่านั้น!

บทส่งท้าย

สามพี่น้องที่ปกครองยุทธจักร จะอยู่หรือจะไป มิใช่เกิดจากศัตรูแดนไกล และมิใช่เกิดจากบรรดาชาวยุทธรุ่นใหญ่และรุ่นเยาว์ที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม การคงอยู่ในตำแหน่งของประมุขยุทธจักรและพี่น้องร่วมสาบานรวมกันทั้งสามคน จะได้อยู่ต่ออีกยาวนาน หรือจะสิ้นสุดลงในระยะเวลาอันใกล้ ขึ้นอยู่กับ เงื่อนไขของเวลา...

ที่ยิ่งอยู่นาน ยิ่งมองไม่เห็นอนาคตที่จะดีขึ้นของชาวยุทธจักรทั้งหมด ถ้าอยู่มาถึงเกือบ 8 ปีแล้วทำได้เพียงแค่นี้ ตัวประมุขยุทธจักรเอง ก็ยังคงยึดติดกับกฏระเบียบหยุมหยิมอันเชื่องช้า เพราะทั้งชีวิตตั้งแต่เติบโตมาในแวดวงยุทธจักร จมอยู่กับกฏระเบียบอันเก่าแก่ของชาวยุทธที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วและวิกฤติในปัจจุบัน

ถึงแม้สิ่งที่ทำในฐานะประมุขของยุทธจักรตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะไม่ได้ทำอะไรที่เลวร้ายในสายตาของชาวยุทธบางส่วน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ดีเด่น จนเห็นชัดเจนของชาวยุทธส่วนมาก กลายเป็นว่า อยู่มานานพลังฝีมือมีได้เพียงเท่านี้ ถ้าจะอยู่ต่ออีกหลายปี อาจไม่สามารถทำอะไรได้อีกแล้ว

และยังขึ้นอยู่กับ การมองหา จอมยุทธคนอื่นที่จะขึ้นมาเป็น ประมุขของชาวยุทธคนใหม่ ซึ่งหลายปีที่ผ่านมายังมองไม่ค่อยเห็น แต่คาดว่าอีกไม่นาน จะมีจอมยุทธทั้งหน้าเดิมที่เริ่มเปล่งประกาย และจอมยุทธหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับความหวังใหม่ๆให้กับชาวยุทธ

เมื่อถึงเวลานั้น...น่าจะเป็นเวลาที่สามพี่น้องร่วมสาบานที่ปกครองยุทธภพมาเกือบ8 ปี ควรจะลงจากตำแหน่ง อย่ายึดติด อย่าพยายามยื้อ เพราะการเปลี่ยนแปลงควบคู่กับการวิวัฒนาการ ยุทธภพก็ถึงเวลาที่ควรเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ยุทธภพดีกว่าเกือบ 8 ปีที่ผ่านมาเช่นกัน.