IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก (27 ก.ค. 65)

IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก (27 ก.ค. 65)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเผชิญแรงขาย ค่อยๆปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนติดตามการประชุมเฟด วันที่ 26-27 ก.ค. ประกอบกับใกล้เข้าสู่ช่วงวันหยุดยาว ทำให้ตลาดมีการพักตัวลงมา โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น แต่มีแรงขายในหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,553.18 จุด -7.13 จุด -0.46% มูลค่าการซื้อขาย 58,698 ลบ. ต่างชาติ +410.89 ลบ. TFEX +7,305 สัญญา ตราสารหนี้ -1,357.21 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยตัวเลขประมาณการเบื้องต้นว่า GDP 2Q65 ของเกาหลีใต้ขยายตัว 0.7%QoQ ซึ่งดีกว่าในไตรมาส 1 ที่มีการขยายตัว 0.6% และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.4%
+ กระทรวงการคลังยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 65 ขยายตัวที่ 3.5% โดยเป็นผลมาจาก 3 เครื่องยนต์เศรษฐกิจ ได้แก่ การท่องเที่ยวคาดว่าต่างชาติจะเดินทางเข้ามาไทยกว่า 8 ล้านคน มากกว่าเดิม 6.7 ล้านคน มีรายได้ 4.3 แสนล้านบาท เนื่องจากมีการผ่อนปรนมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ
+ ครม. มีมติอนุมัติโครงการคนละครึ่งเฟส 5 คนละ 800 บาท เริ่ม ก.ย.-ต.ค. ส่วนกลุ่มบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ- กลุ่มเปราะบางได้อีกคนละ 400 บาท และลดภาษีประจำปีรถ EV ระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน
+/- ศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ (รักษาตัวใน รพ.) เพิ่มอีก 2,747 ราย เสียชีวิต 34 คน หายป่วยกลับบ้านเพิ่ม 2,099 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 228.50 จุด หรือ -0.71% หลังจากบริษัทวอลมาร์ทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ซึ่งได้ฉุดราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกดิ่งลงด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และ IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.72 ดอลลาร์ -1.8% ปิดที่ 94.98 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมระบายน้ำมันในคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคา และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่ร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว


 

- ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลง 2.7 จุด สู่ระดับ 95.7 ในเดือนก.ค. ปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน กังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
- IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.2% ในปี 2565 ก่อนที่จะชะลอตัวสู่ 2.9% ในปี 2566 โดยปรับลดลง 0.4% และ 0.7% ตามลำดับจากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนเม.ย.เนื่องจากความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่รุนแรงกว่าคาด รวมทั้งผลกระทบจากการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน
- สหรัฐกำลังพิจารณาแนวทางยกระดับการคว่ำบาตรรัฐบาลเมียนมา หลังจากที่รัฐบาลทหารของเมียนมาได้สั่งประหารชีวิตอดีตนักการเมืองผู้สนับสนุนประชาธิปไตยและนักเคลื่อนไหวรวม 4 ราย โดยเป็นการใช้โทษประหารชีวิตครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจาก IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า ประกอบกับนักลงทุนยังควจับตาการประชุมเฟด ในวันที่ 26-27 ก.ค.นี้ เพื่อรอดูทิศทางดอกเบี้ยนโยบาย กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,545-1,560 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน    

• กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK BBL KTB TISCO
• ค่า Ft ขึ้นขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลง : GPSC BGRIM GULF
• กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ + สธ. เตรียมยกระดับ ฝีดาษลิง โรคติดต่อร้ายแรง : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH PR9
• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
• ลดภาษีประจำปีรถ EV ระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน : EA GPSC FORTH DELTA PIMO

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                                                        CHIC (mai/ Service /Commerce)
               ราคา IPO = 0.90 บาท ราคาเหมาะสม Consensus อยู่ในช่วง 1.10 - 1.68 บาท

•บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) - CHIC ประกอบธุรกิจจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน และที่นอนและเครื่องนอนอย่างครบวงจร ในรูปแบบร้านค้าเดี่ยวขนาดใหญ่ ภายใต้สินค้าเฟอร์นิเจอร์แบรนด์หลัก ของบริษัทฯ ได้แก่ “ชิค รีพับบลิค”, “รีน่า เฮย์” และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศภายใต้แบรนด์ “แอชลีย์” และสินค้าแบรนด์อื่น ๆ ผ่านช่องทางหน้าร้านค้าของบริษัทฯ และช่องทางออนไลน์ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 6 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาภายในประเทศจำนวน 5 สาขา และสาขาต่างประเทศจำนวน 1 สาขา

•รายได้รวมในปี 62-64 เท่ากับ 781.26 ล้านบาท 707.71 ล้านบาท และ 674.07 ตามลำดับ และรายได้รวมใน 1Q64 และ 1Q65 เท่ากับ 146.32 ล้านบาท และ 217.56 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิในงวดปี 62-64 เท่ากับ 54.44 ล้านบาท 34.15 ล้านบาท และ 19.28 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 6.97% , 4.83% และ 2.86 ตามลำดับ และงวด1Q64 และ 1Q65 เท่ากับ 5.56 ล้านบาท และ 14.71 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับ 3.80% และ 6.76% ตามลำดับ ทั้งนี้ อัตรากำไรสุทธิในงวด 1Q65 ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากงานโครงการที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งรายได้จากการงานโครงการเป็นรายการที่แม้จะมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่ารายได้จากการขายสินค้า แต่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการเกือบทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายคงที่ จึงส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิในงวดดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

•จำนวน IPO 360 ล้านหุ้น ราคา IPO 0.90 บาท (คิดเป็น Trailing P/E = 31.69) ราคาเหมาะสม Consensus อยู่ในช่วง 1.10 - 1.68 บาท วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1)ขยายสาขาใหม่ 2)ชำระคืนเงินกู้ 3)ปรับปรุงพื้นที่สาขาและขยายพื้นที่ให้เช่า 4)เป็นเงินทุนหมุนเวียน

 

หุ้นมีข่าว

(+) CENTEL (Bloomberg consensus 45.75 บาท) รับศึกษาดีลซื้อ KFC ในไทย มั่นใจภาพรวมธุรกิจโรงแรมมียอดจองในประเทศ เฉลี่ย 49% ส่วนต่างประเทศคาดยอดจองเฉลี่ยในไตรมาส 4/2565 จะเร่งตัวขึ้นแตะ 60% ด้านธุรกิจอาหารยังเติบโตดีรายได้ขยายตัว 20% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HARN (ราคาเหมาะสม 2.66 บาท) ปรับกลยุทธ์สต็อกสินค้าพร้อมขาย โชว์แบ็กล็อกปัจจุบันสูงกว่า 400 ล้านบาท จ่อบุ๊กเป็นรายได้ครึ่งปีหลัง 70-80% ดันผลงานโตต่อ ใส่เกียร์ขายสินค้าปรับอากาศ VRF คาดปีนี้กวาดยอด 30 ล้านบาท พร้อมคงเป้ารายได้ทะยาน 21.44% แตะ 1.24 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) FSMART (Bloomberg consensus 21.00 บาท) เผย "บุญเติม" เปิดช่องทางฝาก-โอนเงินต่างด้าวที่มีบัญชีกับธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา พร้อมการใช้งานหน้าตู้ 4 ภาษา ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย คาดผลตอบรับดีจากจุดบริการกว่า 130,000 จุด และจำนวนบุคคลต่างด้าวที่ทำงานในประเทศกว่า 2 ล้านคน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SCM (Bloomberg consensus - บาท) เดินเกมรุกแตกไลน์ธุรกิจสินเชื่อ "จัดให้ ลิสซิ่ง" คาดเปิดตัวในสิงหาคมปีนี้ พร้อมวางเป้าปล่อยสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2567 ส่งซิกปีแรกดีเดย์ปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มสมาชิก และกลุ่มลูกค้าทั่วไปได้ราว 50-100 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น อานิสงส์ช่วงไฮซีซัน แถมออกผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาหนุนยอดขาย มั่นใจทั้งปี ปั้นรายได้โต 20% (ที่มา ทันหุ้น)