BTS หนุน 'แรบบิท ไลฟ์' โตเด่นในระยะยาว ปี 68 ติดท็อป10ของธุรกิจประกันชีวิต
"บีทีเอส“ตั้งเป้าปี68 แรบบิทไลฟ์ กวาดเบี้ยรับรวมแตะ “หมื่นล้าน” ติดท็อป10 ในอุตสาหกรรม เน้นเจาะฐานลูกค้าสมาชิกบัตรแรบบิท 15 คน ผู้โดยสารรถไฟฟ้ามากกว่า3 ล้านคนต่อวัน
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า กลุ่มบีทีเอส ได้ลงทุนในธุรกิจใหม่ของกลุ่ม คือ บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ Rabbit Life (แรบบิท ไลฟ์) และพร้อมสนับสนุนด้านอื่นๆให้ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตต่อเนื่องในระยะข้างหน้า
เนื่องจาก บริษัทมองว่า การลงทุนในธุรกิจประกันชีวิต เป็นการลงทุนระยะยาว และยังมีโอกาสเติบโตอีกมากในอนาคต
โดยแรบบิท ไลฟ์ จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแพลตฟอร์มของกลุ่มบีทีเอส และร่วมกันสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มบีทีเอส ภายใต้กลยุทธ์ 3 M ที่วางไว้คือ 1.MOVE ระบบขนส่งมวลชนระบบรางในกรุงเทพได้ดำเนินโครงการไปมากถึง 140 กิโลเมตร (รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีทอง) 2.MIX การเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจการต่าง ๆ และ 3.MATCH การเป็นผู้ให้บริการ(provider) ให้กับลูกค้าและพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ
ทั้งนี้บริษัทคาดหวังว่า แรบบิท ไลฟ์ จะขึ้นไปเป็นท็อป 10 ของอุตสาหกรรมธุรกิจประกันชีวิต ภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2568 โดยแรบบิท ไลฟ์ สามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายกลุ่มบีทีเอส จากปัจจุบันมีสมาชิกบัตรแรบบิทเกินกว่า 15 ล้านใบ และผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้ามากกว่า 3 ล้านคนต่อวัน
นายกรณ์ ชินสวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) หรือ แรบบิทไลฟ์ กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจ ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจด้วยการชูกลยุทธ์การเป็นหนึ่งในใจของผู้บริโภค โดยเริ่มต้นจากแนวคิดในการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
พร้อมทั้งตอบสนองต่อลูกค้าที่แตกต่างโดยการรับฟังความต้องการ เรียนรู้ เพื่อนำไปออกแบบและพัฒนาให้ได้ค่าตอบที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า ภายใต้สโลแกนของ บริษัท "Rabbit Life Level up life” ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าการเป็น 1 ใน 10 ของตลาดธุรกิจประกันชีวิตได้ภายใน 3 ปี หรือในปี 2568 ต้องมีมาร์เก็ตแชร์ของตลาดรวมมากกว่า 1% โดยต้องมีเบี้ยใหม่ 6,000-7,000 ล้านบาท และมีเบี้ยรับรวมกว่า 10,000 ล้านบาท
ส่วนในปี 2565 ตั้งเป้ามีเบี้ยรับรวมมากกว่า 2,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยรับรวม 800 ล้านบาท
" ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนตัวแทนช่องทางตัวแทน 350 ราย ซึ่งในสิ้นปีนี้คาดจะมีตัวแทน 500 ราย ส่วนช่องทางเทเล มีจำนวน 120 สิ้นปีนี้คาดว่าจะมี 150 ราย และ ที่ปรึกษาทางด้านการเงิน มี 20 ราย อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์การดำเนินธุรกิจมากว่า 25 ปี ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จจากการดำเนิธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดี ”นายกรณ์ กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า จากการวิจัยทางการตลาดของเราพบว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่มีการใช้ชีวิตแบบ New Mindset ในการทำประกันที่นึกถึงตัวเองมากขึ้น เพื่อตอบสนองกับการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในหลากหลายมิติ เนื่องจากในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย
ทั้งนี้ผู้คนจึงมีความจำเป็นที่ต้องปรับตัวเพื่อให้ผ่านสถานการณ์ดังกล่าวไปให้ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของชีวิต สุขภาพ หรือการเงินเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการใส่ใจรายละเอียดในการดำเนินชีวิตทุกด้าน ผู้บริโภคจึงต้องการตัวเลือกที่ดีและเหมาะสมที่สุดสำหรับในแต่ละช่วงของชีวิต เราจึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลายและสามารถปรับรูปแบบได้ตามความต้องการผ่านแนวคิด Customixed (Customize + Mix) เราคิดมาให้ครบจบทุกความต้องการ
โดย ไม่ว่าคุณจะมีเป้าหมายในการใช้ชีวิตแบบไหนคุณก็สามารถก้าวกระโดดไปถึงจุดหมายได้ ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมและคุ้มค่า อาทิ ประกันชีวิตเพื่อคนที่คุณรัก (Level Up Protection), ประกันออมเงินเพื่ออนาคต (Level Up Saving), ประกันสุขภาพ (Level Up Health), ประกันเพื่อการลงทุน (Level Up Wealth) และประกันออมเงินเพื่อชีวิตหลังเกษียณ (Level Up Life Rewards) เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างกลุ่มธุรกิจในเครือของ BTS Group ที่สามารถมา MIX และ MATCH ธุรกิจในเครือเข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการได้ง่ายยิ่งขึ้นพร้อมด้วยสิทธิพิเศษต่างๆ อีกมากมายในอนาคต ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าลูกค้าที่ถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิต แรบบิท ไลฟ จะได้รับข้อเสนอที่ พิเศษและแตกต่างอย่างแน่นอน