'ส.อ.ท.' หนุนโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี เพิ่มการจ้างงาน - รายได้ในท้องถิ่น
รองประธาน ส.อ.ท.หนุนรัฐบาลใช้โมเดลบีซีจีสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ให้ประเทศ เพิ่มการจ้างงาน - ค่าแรงในท้องถิ่น เผย ส.อ.ท.มีโครงการ 1 จังหวัด 1 อุตสาหกรรมสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับท้องถิ่น
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวในระหว่างการเสวนาหัวข้อ "การขับเคลื่อเศรษฐกิจชุมชน สู่ความมั่งคั่ง" ภายในงานสัมนา"การกระจายอำนาจกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ" จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับ เนชั่นทีวี และ สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ (27ก.ค.) ว่าปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมีสัดส่วนอยู่ในผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ประมาณ 30% ถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ
อย่างไรก็ตามโอกาสในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอยู่ที่อุตสาหกรรมใหม่ๆ ได้แก่ เมืองอัจฉริยะ อาหารแห่งอนาคต การค้าออนไลน์ รวมถึงการใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ทำงานในสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยเน้นการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้โมเดลเศรษฐกิจที่สำคัญคือเรื่องของเศรษฐกิจ BCG ที่ใช้ฐานทรัพยากรและวัตถุดิบในประเทศเพื่อต่อยอดอุตสาหกรรมไปสู่เทคโนโลยีและอุตสาหกรรมขั้นสูง การเพิ่มมูลค่าสินค้าผ่านการแปรรูปสินค้าเกษตร การแปรรูปทำเครื่องสำอางเป็นต้น
ซึ่งโมเดลนี้จะช่วยให้เกิดการกระจายรายได้ และช่วยการแก้ไขปัญหาเรื่องของต้นทุนภาคเอกชนที่จะเพิ่มจากค่าแรงขั้นต่ำที่จะเพิ่มขึ้นด้วย
“สอท.ให้ความสำคัญกับการเติบโตใหม่ที่เน้นในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตรมากขึ้น โดยใช้ฐานของอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เกิด 1 อุตสาหกรรม 1 จังหวัดที่ช่วยให้มีการกระจายรายได้ออกไปสู่ต่างจังหวัดได้มากขึ้น
และสร้างงานในจังหวัดและเมืองต่างๆได้มาก โดยการแก้ไขปัญหาในแนวทางเดียวกับประเทศจีนทำได้จากการปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจ ทำอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก็ไม่เป็นปัญหาของนายจ้างเนื่องจากผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงในแต่ละท้องถิ่น”