พนง.หนีตาย เพลิงไหม้โรงจอดรถกอล์ฟ เผาวอดกว่า 10 คัน สนามกอล์ฟวินด์มิลล์
อัปเดต พนักงานหนีตาย เสียงระเบิดของแบตเตอร์รี่รถกอล์ฟ เหตุเพลิงไหม้โรงจอดรถกอล์ฟ เผาวอดกว่า 10 คัน ภายในสนามกอล์ฟวินด์มิลล์
กรณีเพลิงไหม้โรงจอดรถกอล์ฟ เผาวอดกว่า 10 คัน ภายในสนามกอล์ฟวินด์มิลล์ เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2565 ร.ต.อ.นเรศ ลี้เจริญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้อาคารจอดรถกอล์ฟ ซึ่งตั้งอยู่ในสนามกอล์ฟวินมิลล์ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิง อบต.บางพลีใหญ่ และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 10 คัน เดินทางเข้าตรวจสอบ และระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารจอดรถกอล์ฟ สูง 3 ชั้น ที่บริเวณชั้น 3 พบกลุ่มควัน และเปลวเพลิง กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ท่ามกลางเสียงระเบิดของแบตเตอร์รี่รถกอล์ฟ ที่จอดชาร์ทแบตเตอรี่อยู่หลายสิบคัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิทยุสั่งเพิ่มความระมัดระวัง และสวมใส่ชุดปฎิบัติการภายในตัวอาคารอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันอันตรายกับทางเจ้าหน้าที่ ท่ามกลางความตื่นตะหนกตกใจของพนักงาน และผู้พักอาศัยในสนามกอล์ฟแห่งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ เบื้องต้นพบว่า รถกอล์ฟที่จอดอยู่ภายในอาคารชั้น3 จำนวนหลายสิบคัน ถูกไฟเผาผลาญได้รับความเสียหายทั้งหมด
หลังเกิดเหตุ นางสาววีร์สุดา รุ่งเรือง นายก อบต.บางพลีใหญ่ ได้เดินเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร 3 ชั้น ใช้สำหรับจอดรถกอล์ฟ และชาร์จแบตเตอร์รถกอล์ฟ โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ลานจอดชาร์จรถ ชั้น 3 ของอาคาร ซึ่งมีรถกอล์ฟกว่า 30 คัน กำลังจอดเสียบสายชาร์จคาอยู่ ซึ่งมีพนักงานเฝ้าถึงแค่เที่ยงคืน จนกระทั่งมาพบว่า เกิดเพลิงไหม้ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด คาดว่าอาจจเกิดจากระบบไฟฟ้าลัดวงจร
อย่างไรก็ตาม จะต้องประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง หลังจากที่ความร้อนในตัวอาคารหมดไป ส่วนทางด้านนายก อบต.บางพลีใหญ่ ได้สั่งการให้กองช่าง เข้าสำรวจความเสียหายตัวโครงสร้างของอาคาร เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอาคาร เบื้องต้นได้มีคำสั่งระงับการใช้อาคารเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ และยืนยันในความปลอดภัยของอาคาร
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดกั้นอาคารดังกล่าวเอาไว้ เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุ ของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป