จีน-สหรัฐตึงเครียด (วันที่ 3 สิงหาคม 2565)

จีน-สหรัฐตึงเครียด (วันที่ 3 สิงหาคม 2565)

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายจะพลิกตัวลงในแดนลบ จากแรงขายหุ้น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงก่อนหน้า นักลงทุนติดตามประเด็นที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐวางแผนเยือนไต้หวัน

สร้างความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,589.16 จุด -4.08 จุด -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 59,433 ลบ. ต่างชาติ +2,682.53 ลบ. TFEX +27,766 สัญญา ตราสารหนี้ +459.56 ลบ.
 

ปัจจัยบวก  

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 53 เซนต์ +0.6% ปิดที่ 94.42 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มโอเปคพลัสและรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้
+ สรท. คาดการณ์ส่งออกปี 65 เพิ่มขึ้น 6-8% จากเดิมคาดว่าเพิ่มขึ้น 5% เนื่องจากประเมินสัญญาณทางเศรษฐกิจครึ่งปีหลังพบว่าภาคส่งออกยังเป็นเครื่องมือหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอาจยายตัวได้ถึง 10%
+ ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการนโยบายด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยระยะแรกให้ปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
+ กระทรวงการคลัง รายงานสถานการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 66 โดยคาดว่าจะเติบโตได้ 4.2% จาก 3.3% ในปี 65 จากการบริโภคภาคเอกชน และกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยมากขึ้นหลังเปิดประเทศ โดยประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในปี 66 จะเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน ขณะที่ปีนี้อยู่ที่ราว 6 ล้านคน
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,432 ราย มีผู้เสียชีวิต 32 ราย รักษาหาย 2,472 ราย

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ร่วงลง 402.23 จุด -1.23% กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันและสร้างความไม่พอใจให้กับจีน
 

 

- รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากโรคฝีดาษลิงแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่ 3 ของสหรัฐที่ประกาศภาวะฉุกเฉินภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง
- ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้นจากการที่นาง แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางไปไต้หวันและ มีแผนพบปะกับนางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวันและจะจัดแถลงข่าวร่วมกันในวันนี้เวลาประมาณ 10.53 น.ตามเวลาท้องถิ่นขณะที่เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่าจะบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ
- รัฐบาลจีนได้สั่งระงับการนำเข้าขนมบิสกิตและขนมอบจากบริษัทส่งออกจำนวน 35 แห่งของไต้หวัน ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 ส.ค. ก่อนที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จะเดินทางเยือนไต้หวันในวันนี้

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน นักลงทุนยังติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยอยออกมา มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,580-1,600 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงครึ่งปีหลัง + หุ้นแบงก์ได้ประโยชน์จากธปท.เลิกเพดานจ่ายปันผลและทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น เราชอบแบงก์ใหญ่ KBANK BBL KTB TISCO
• ค่า Ft ขึ้นขณะที่ต้นทุนพลังงานปรับตัวลง : GPSC BGRIM GULF
• กังวลโควิด-19 ระลอกใหม่ + สธ. เตรียมยกระดับ ฝีดาษลิง โรคติดต่อร้ายแรง : BH BDMS CHG BCH PRINC WPH PR9
• โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
• ลดภาษีประจำปีรถ EV ระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน : EA GPSC FORTH DELTA PIMO

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

                                             SMT - เลื่อนการลงทุนเครื่องขุดบิทคอยน์ ปลดล็อก Overhang
                                                                 (Bloomberg Consensus 6.00 บาท)

•บริษัทคาดผลการดำเนินงานในช่วง 2Q65 จะสามารถทำนิวไฮสูงกว่าทุกไตรมาสที่ผ่านมา หลังได้แรงสนับสนุนจากออเดอร์ลูกค้าที่ทยอยส่งมาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายในกลุ่ม PCBA และ Fiber optics ยังเติบโตได้ดี ประกอบกับได้อานิสงส์จากเงินบาทที่อ่อนค่า หนุนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้น

•สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 2H65 บริษัทคาดว่าจะดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อ ล่วงหน้าแล้วจำนวนมาก ประกอบกับสถานการณ์วัตถุดิบขาดแคลนเริ่มคลี่คลาย โดยปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์ล่วงหน้า (Backlog) รวมประมาณ 2,700 ล้านบาท ทั้งงาน Measuring Tools, Optical Transceiver และ EV Battery Control ซึ่งจะทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้ใน 3Q65 มากกว่า 2Q65 และในช่วง4Q65 คาดว่าจะเริ่มผลิตออเดอร์ที่รับเข้ามาแล้ว ได้แก่ งาน Power Amplifier, Wall mount BT audio และ BGA Packages เข้ามาเพิ่มเติม และยังคงมีสัญญาณการสั่งซื้อที่ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 ที่ระดับ 3 พันล้านบาท เติบโต 37%YoY

ความเห็น เรามีมุมมองเชิงบวกจากการประชุมนักวิเคราะห์ เนื่องจากผลประกอบการมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทได้เลื่อนการลงทุนเครื่องขุดบิทคอยน์ เนื่องจากการราคา BTC ที่ปรับตัวลง ส่งผลให้จุดคุ้มทุนไม่เป็นไปตามแผน ซึ่งช่วยปลดล็อก Overhang ของบริษัท เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) OR (Bloomberg consensus 28.45 บาท) เผยค่าการตลาดน้ำมันพรีเมียมฟื้นตัว ดีมานด์กลับมาดีหลังเดินทางเปิดเมือง มั่นใจปริมาณขายน้้ามันโต 8-10% ส่วนน้ำมันอากาศยานแรง 30% ชี้ธุรกิจนอนออยล์เติบโตโดดเด่น เชื่อม Traveloka เดินหน้าลงทุน จับตาดีลใหญ่ไตรมาส 4 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BCH (Bloomberg consensus 24.00 บาท) ชี้ผู้ป่วยปกติกลับมาสูง OPD ชำระเงินสดสูงขึ้น 20% ประกันสังคมแตะ 1 ล้านราย ขณะที่ผู้ป่วยโควิดยังทยอยเข้ารับการรักษาโดยเฉพาะกรุงเทพ ปรับแผนส่งต่อโรงพยาบาลต่างจังหวัด เตรียมเปิดศูนย์มะเร็งพร้อมศูนย์หัวใจในประเทศสปป.ลาวเพิ่ม ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ 17,000 ล้านบาท ด้านโบรกชูฐานเขยิบ มีดีมานด์อั้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MFEC (Bloomberg consensus 11.50 บาท) ชี้ครึ่งปีหลัง 2565 ธุรกิจไอทีโตต่อ รองรับการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ลุยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ซีเคียวริตี้ Cloud Computing และดาต้า ล่าสุดจับมือ BCP ลุยดาต้า คาเฟ่ ขยายงานเพิ่ม พร้อมเปิดกว้างพันธมิตรร่วมทุนต่อยอดธุรกิจ ย้ำปีนี้คงเป้ารายได้โต 15% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PROEN (Bloomberg consensus - บาท) ใส่เกียร์ชิงงานครึ่งปีหลังกว่า 660 ล้านบาท จากงานไอซีที 180 ล้านบาท และงานไฟฟ้า 480 ล้านบาท แย้มแผนซื้อกิจการศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์เสริมฐานแกร่ง ปักธงรายได้ปีนี้โต 20% โชว์แบ็กล็อกแน่น 600 ล้านบาท จ่อบุ๊กช่วงที่เหลือปีนี้ 50% (ที่มา ทันหุ้น)