“ศิลปาชีพไทย 65 “ เริ่ม 12 – 20 ส.ค.นี้ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี
กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ !! กับงานเชิดชูหัตถศิลป์และผ้าไทยในงาน“ศิลปาชีพ ปี 65” กรมการพัฒนาชุมชน จัดเต็ม 12 - 20 ส.ค. นี้ ที่ อิมแพค เมืองทองธานีตั้งเป้าทำยอดทะลุ500ล้าน
กระทรวงมหาดไทย โดย กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) เตรียมพร้อม จัดงานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ปี 2565 โดยเปิดโอกาสให้แฟนพันธุ์แท้ OTOP กลับมาช้อปเต็มรูปแบบอีกครั้ง บนพื้นที่กว่า 60,000 ตรม. ภายใต้มาตรการคุมเข้มด้านสาธารณสุข ป้องกันโรคโควิด-19 ตระการตากับผ้าไทยใส่ให้สนุก ชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์อันทรงคุณค่าจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และสุดยอดสินค้า OTOP ทั่วไทย พร้อมอร่อยล้ำกับ OTOP ชวนชิม นัดช้อปพร้อมกัน 12 – 20 สิงหาคม นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี
นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า การจัดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ปี 2565 ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพปวงประชาอย่างยั่งยืน” ครั้งนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์
ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเชื่อมโยงเศรษฐกิจมหภาค เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และการมีงานทำให้กับประชาชน โดยการจัดงานครั้งนี้ คาดว่าจะมียอดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งสามารถช่วยกระจายรายได้ให้กับเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี และกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ภายในงาน ยังได้ร่วมเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายและสิ่งทอ ต่อยอดการพัฒนาลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการประกาศศักดาและเชิดชูคุณค่าของผ้าไทย อันเป็นหนึ่งในงานหัตถศิลป์ล้ำค่าของช่างฝีมือไทย ผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นมรดกทางศิลปะไทยอันงดงาม ให้ได้เผยแพร่ออกสู่สายตาชาวโลก และสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน พร้อมสร้างความภาคภูมิใจให้กับช่างฝีมือและดีไซเนอร์ไทย
ขณะเดียวกัน ยังเป็นการขับเคลื่อนพัฒนาต่อยอดด้านช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ OTOP เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งอย่างสมดุลและยั่งยืนด้วยนวัตกรรมภูมิปัญญาท้องถิ่น และตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
นายสมคิด จันทมฤก กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาจัดงานแบบเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร อีกครั้ง หลังจากว่างเว้นไป เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยครั้งนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานกว่า 2,000 ราย ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมงาน จะต้องปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ภายในงานครอบคลุมกิจกรรมหลัก ดังนี้
1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นที่มาของศิลปาชีพ 2.การจัดแสดงส่วนที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ โซนศิลปิน OTOP โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก โซนตลาดกลางเส้นไหมและเส้นใยธรรมชาติ 3.การจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ 4.การจำหน่ายสินค้า OTOP ทั้ง 5 ประเภท OTOP : KBO / OTOP Brand name / OTOP Premium / OTOP Trader / OTOP ชวนชิม รวมถึงผักและผลไม้
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการจากหน่วยงานภาคี และกิจกรรมการแสดง เช่น การแสดงมินิคอนเสิร์ต จากศิลปินชื่อดัง อาทิ ลำไย ไหทองคำ /เก่ง ธชย/รุ่ง สุริยา เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ กิจกรรมจับสลากมอบรางวัลผู้โชคดีภายในงานทุกวัน เพียงซื้อสินค้าครบ 500 บาท รับคูปองลุ้นรับ Gift Voucher มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 12 รางวัล และวันสุดท้ายลุ้นรับทองคำ จำนวน 7 รางวัลโดยตั้งเป้าทำยอดขายไม่ต่ำกว่า500ล้าน
“12 – 20 สิงหาคมนี้ ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาชม ชิม ช้อป และร่วมภาคภูมิใจไปกับผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะผ้าไทย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างโอกาส และสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 เมืองทองธานี ” นายสมคิด จันทมฤก กล่าว