ตลาดหลักทรัพย์จับมือโอสถสภา เดินหน้าโครงการ Care the Whale
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ 13 พันธมิตร จับมือกับโอสถสภา บริษัทกับในโครงการ Care the Whale เดินหน้าโครงการ "ขวดแก้วล่องหน" ส่งเสริมให้สถานประกอบการร่วมแยกขยะขวดแก้วและนำขยะกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ
และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นางสาวนพเก้า สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานสื่อสารองค์กรและพัฒนาเพื่อสังคม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า "โครงการ Care the Whale ได้ส่งเสริมให้องค์กรสมาชิกได้มีการคัดแยกขยะและนำส่งขยะที่รีไซเคิลได้ ไปสู่กระบวนการจัดการอย่างถูกต้อง สำหรับขยะขวดแก้วนั้น ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนกรกฎาคม มีจำนวนขยะขวดแก้วที่คัดแยกเพื่อนำไปรีไซเคิลได้ถึง 6,493 กก. โดยเป็นขวดแก้วใส 3,823 กก. และขวดแก้วสี 2,670 กก. สามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 110,154.70 กก.คาร์บอนไดซ์ออกไซต์เทียบเท่า การต่อยอดโครงการขวดแก้วล่องหน ร่วมกับ บมจ.โอสถสภา จะยิ่งส่งเสริมให้เกิดการคัดแยกขยะขวดแก้วมากขึ้น เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและแปรรูปเป็นขวดแก้วใหม่ ช่วยลดการใช้ทรัพยากรทรายที่เป็นส่วนประกอบสำคัญทางธรรมชาติในการผลิตขวดแก้ว"
โครงการ "ขวดแก้วล่องหน" เป็นอีกก้าวของโครงการส่งขวดแก้วสู่ขวดแก้ว (Bottle to Bottle) ซึ่งโอสถสภาได้เริ่มการลดปริมาณขยะและลดผลกระทบจากการบริโภคผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการสร้างโมเดลเพิ่มประสิทธิภาพการนำขยะขวดแก้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตขวดแก้วใหม่ โครงการขวดแก้วล่องหนเกิด โดยต่อยอดจากโครงการ Care the Whale ขยะล่องหน ที่มีการส่งเสริมให้พันธมิตรในย่านถนนรัชดาภิเษกและนอกย่านร่วมกันแยกขยะและจัดเก็บขยะเข้าสู่ระบบรีไซเคิล และนำระบบ Care the Whale Calculator มาช่วยคำนวณ และประมวลผลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการลดขยะ โครงการนี้จะส่งเสริมให้มีการรับขยะขวดแก้วเพิ่มเติมอีกหนึ่งประเภท
ด้วยการมอบถังขยะสำหรับรับขวดแก้วให้ทุกหน่วยงานในโครงการและจะแปลงขยะขวดแก้วที่ได้รับเป็นผลิตภัณฑ์ของโอสถสภา โดยสมทบผลิตภัณฑ์มูลค่าตามปริมาณขยะที่ได้รับ 1 บาท ต่อขยะขวดแก้ว 1 กิโลกรัม ไปใช้ในการช่วยเหลือสังคมหรือกิจกรรมสาธารณกุศลในโครงการ Care the Whale
นางสุธิดา เสียมหาญ ผู้อำนวยการสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม บมจ. โอสถสภา กล่าวว่า "โอสถสภามุ่งเน้นด้านการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อลดการสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยปฏิบัติตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน มีการจัดตั้งศูนย์รีไซเคิลขั้นสูง เพื่อลดปริมาณของเสีย เพิ่มการรีไซเคิล และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการนำขยะเศษแก้วมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตขวดใหม่ อย่างไรก็ตาม การจะบรรลุเป้าหมายในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริโภคได้นั้น ต้องมีความร่วมมือตลอดห่วงโซ่คุณค่า โครงการขวดแก้วล่องหนถือเป็นการผนึกพลังของพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกัน ช่วยกันสนับสนุนให้เกิดการแยกขยะที่ต้นทาง ลดปริมาณขยะ และนำขยะเศษแก้วกลับมารีไซเคิลให้ได้มากที่สุด ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนต่อไป"
โครงการนี้จะช่วยขยายพลังสีเขียวของชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น หลังจากที่โอสถสภาได้ใช้โมเดลนี้นำร่องกับชุมชนรอบข้างสำนักงานใหญ่ ย่านหัวหมาก ในปีที่ผ่านมา และสามารถนำขวดแก้วกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลแล้วทั้งสิ้น 11,758 กิโลกรัม ซึ่งนับเป็นเครื่องยืนยันถึงพลังสำคัญของชุมชนในการลดผลกระทบจากการดำเนินชีวิตต่อสิ่งแวดล้อม โอสถสภาจะยังคงเดินหน้าเชิญชวนคนไทยให้ร่วมกันแยกขยะ เพื่อเปลี่ยนขยะที่มีมูลค่าซ่อนอยู่ ให้เป็นความสุขของชุมชน และสร้างสังคมที่ยั่งยืนร่วมกัน