คอนโดหัวหินฮอต!คนไทย-ต่างชาติแห่ซื้อดันราคาที่ดินพุ่ง150ล้านต่อไร่

 นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า  10 ปีที่ผ่านมาตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหิน ชะอำ และปราณบุรี มีอุปทานคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ทั้งสิ้น 71 โครงการ 29,152 หน่วยมูลค่าการพัฒนารวม123,700 ล้านบาท  

ช่วงปี2554-2555 เป็นช่วงที่ตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่เติบโตสูง มีอุปทานเปิดขายใหม่ถึงปีละ 7,000-8,000 หน่วย หลังจากในพื้นที่กรุงเทพฯเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ส่งผลให้เมืองท่องเที่ยวได้รับความสนใจจากโดยเฉพาะตลาดคอนโดในพื้นที่หัวหิน ชะอำ และปราณบุรี ทำให้ผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์เข้าไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่เป็นจำนวนมากและหลายโครงการสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว 
 

ขณะเดียวกันพบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาในพื้นที่ดังกล่าวมีโครงการคอนโดมิเนียมถึง 10 โครงการ 6,219 หน่วย ด้วยมูลค่าการพัฒนารวมกว่า 10,000 ล้านบาท"หยุด"การขายและการพัฒนาและกว่า 70.9 % อยู่ในพื้นที่ชะอำ ! หลังจากปี 2555 เป็นต้นมาพบว่าอุปทานใหม่มีแนวโน้มปรับตัว "ลดลง" แต่ตลาดยังคงขับเลื่อนด้วยผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์จากกรุงเทพฯ ซึ่งจากข้อมูลพบว่าอุปทานเปิดขายใหม่ในช่วง10 ปีที่ผ่านมามีจำนวน 31 โครงการ 16,188 หน่วย  คิดเป็น 55.5 %ของตลาดและเป็นการพัฒนา

โดยผู้พัฒนานอกตลาดหลักทรัพย์จำนวน  40  โครงการ 12,964 หน่วย คิดเป็น44.5% และพบว่าเป็นการพัฒนาในพื้นที่ชะอำสูงที่สุดจำนวน 17,448 หน่วยคิดเป็น  59.8 %ของอุปทานเปิดขายใหม่ทั้งหมดในตลาด ตามมาด้วยในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเลจำนวน6,555 หน่วยคิดเป็น 22.5 %และหัวหินฝั่งภูเขา 4,714 หน่วยคิดเป็น16.2%
 
 

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาของตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหิน ชะอำ ปราณบุรี ผู้พัฒนาส่วนใหญ่ให้ความสนใจพัฒนาคอนโดมิเนียมในรูปแบบ 1 ห้องนอนมากที่สุดจำนวน 16,979 หน่วย คิดเป็น58.2% ตามมาด้วยรูปแบบ สตูดิโอ 7,237 หน่วยคิดเป็น  24.8% และรูปแบบ 2 ห้องนอน 4,498 หน่วย คิดเป็น15.4 %และรูปแบบ 1 ห้องนอน 25.0 -30.0 ตร.ม.ยังคงเป็นรูปแบบที่ผู้พัฒนาให้ความสนใจพัฒนาเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นรูปแบบห้องที่ได้รับความนอยมจากกลุ่มลูกค้าทั้งในส่วนลูกค้าที่เป็นนักลงทุนและกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อการอยู่อาศัยเป็นบ้านพักตามอากาศ เนื่องจากระดับราคาต่อหน่วยที่ไม่สูง

   จากการสำรวจของคอลลิเออร์สฯ พบว่า พื้นที่หัวหิน ชะอำ ปราณบุรี ครึ่งแรกปี 2565 มีอุปทานทั้งหมดในตลาดทั้งหมด 15,908 หน่วย  ตลาดสามารถดูดซับไปแล้ว  12,647  หน่วย คิดเป็นอัตราการขายรวม79.5% โดยพบว่ายังคงมีหน่วยขายในพื้นที่รอการระบายอีกทั้งหมด 3,252  หน่วย คิดเป็น20.5%

นอกจากนี้ยังพบว่าในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเลมีอัตราการขายสูงสุดที่ 84.6% และมีหน่วยเหลือขายในตลาดเพียงแค่ประมาณ 540 หน่วยเท่านั้น ตามมาด้วยในพื้นที่หัวหินฝั่งภูเขามีอัตราการขายที่ประมาณ 83.8 %โดยพบว่าพื้นที่ชะอำยังคงเป็นพื้นที่ที่มีหน่วยเหลือขายคงค้างในตลาดสูงที่สุดที่ 2,279 หน่วย ด้วยอัตราการขายรวมที่ประมาณ77.9 %
 

สำหรับในช่วงครึ่งแรกของปี2565  ที่ผ่านมา สถานการณ์ตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหิน ยังคงเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจและยังคงเติบโตทั้งในด้านอุปทาน และอุปสงค์ โดยสะท้อนให้เห็นได้จากยอดขายของโครงการใหม่ที่เปิดขายไปในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เช่น โครงการ เฮย์ หัวหิน ของแสนสิริ ในพื้นที่หัวหิน สามารถทำยอดขายได้มากกว่า90%  หลังจากเปิดขาย

สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่ใจกลางเมืองหัวหินยังคงเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะนักลงทุนจากกรุงเทพฯ และกลุ่มลูกค้าชาวไทยให้ความสนใจซื้อคอนโดเพื่อการลงทุน หรือเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 เพิ่มขึ้น นอกจากนี้กำลังซื้อจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน และรัสเซียเริ่มกลับมามีแนวโน้มที่ดีขึ้นเช่นเดียวกัน

ในปี2561 - 2565 พบว่าหน่วยขายได้ใหม่ของตลาดคอนโดในหัวหิน ชะอำ ปราณบุรีสูงกว่า 1,265 - 2,537 หน่วยต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยขายใหม่ที่ค่อนข้างสูง และปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

โดยเฉพาะครึ่งแรกของปี2565 ตลาดมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมามีหน่วยขายได้ใหม่กว่า 500 หน่วย และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่หัวหิน ทั้งในส่วนของหัวหินฝั่งภูเขาและหัวหินฝั่งทะเล 

ครึ่งแรกปี2565 ราคาขายเฉลี่ยของคอนโดที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเลยังคงเป็นทำเลที่มีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรสูงที่สุดที่ 130,300 บาทต่อตร.ม.

โดยพบว่าคอนโดที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายหาดวิวทะเลบางโครงการในบางยูนิตมีราคาขายเฉลี่ยต่อตร.ม.สูงถึง 370,000 บาทต่อตร.ม.และยูนิตเหล่านั้นได้รับความสนใจจากกำลังซื้อระดับบนเนื่องจากกลุ่มลูกค้ามองว่า อุปทานเหล่านี้ค่อนข้างมีจำกัดและราคาปรับตัวตลอดเวลาส่งผลให้หน่วยขายเหล่านี้ถูกขายออกไปอย่างรวดเร็ว

 
นายภัทรชัย  ระบุว่า  2-3  ปีที่ผ่านมา ผู้พัฒนาส่วนใหญ่ให้ความสนใจพัฒนาคอนโดในพื้นที่ใจกลางเมืองหัวหินฝั่งภูเขามากขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินที่ถือว่าถูกกว่าในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเล โดยพบว่าทำเลหัวหินฝั่งทะเลในช่วงที่ผ่านมาราคาที่ดินปรับตัวสูงกว่า 150 ล้านบาทต่อไร่หรือสูงกว่าตารางวาละ 375,000 บาทเนื่องจากที่ดินค่อนข้างยาก

คอนโดในพื้นที่หัวหินทั้งพื้นที่ฝั่งภูเขา จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่มีราคาขายอยู่ในช่วง 60,000 บาทต่อตร.ม.โดยพื้นที่นี้จะยังคงได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่องเนื่องจากราคาต่อยูนิตที่ไม่สูงมากนัก และตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมืองหัวหิน

ทั้งนี้ คาดการณ์ทิศทางตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหิน ชะอำ ปราณบุรีในช่วงครึ่งหลังของปี จะยังคงได้รับความสนใจทั้งจากผู้พัฒนาและจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพา คอนโดมิเนียมวิวทะเลในพื้นที่หัวหินฝั่งทะเล เนื่องจากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาพบว่าคอนโดมิเนียมวิวทะเลในพื้นที่หัวหินราคาขายปรับตัวสูงขึ้นกว่า 80% หรือเฉลี่ยปีละกว่า8 % จากผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์

"ในพื้นที่ชะอำ ผู้พัฒนาควรชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป เนื่องจากพบว่ายังคงมีอุปทานคอนโดมิเนียมเหลือขายในพื้นที่อีกเป็นจำนวนมากและส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและยังมีหน่วยขายในตลาดเช่นเดียวกับในพื้นที่ปราณบุรี"