มะลิราคาพุ่งรับวันแม่ 1,200 บาท/กิโลกรัม
ชาวสวนเร่งเก็บดอกมะลิพร้อมส่งขายในราคาหน้าสวน กก.ละ 1,200 บาท ขณะที่มีลูกค้าสั่งซื้อเพื่อนำมาร้อยมาลัยจำหน่ายในวันแม่ ส่วนมาลัยดอกมะลิราคาเริ่มต้นพวงละ 50 บาท
จากการลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศที่แปลงของเกษตรกรผู้ปลูกดอกมะลิ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบว่าเกษตรกรต่างพากันเร่งเก็บเกี่ยวดอกมะลิสำหรับการนำไปใช้ในการทำพวงมาลัยเนื่องในวันแม่แห่งชาติปีนี้กันแล้ว
นางสมบูรณ์ อำไพวงษ์ อายุ 60 ปี 13 ม.18 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น เกษตรกรผู้ปลูกดอกมะลิ กล่าว ได้ปลูกดอกมะลิบนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ เริ่มเก็บดอกมะลิตามยอดการสั่งซื้อของร้านดอกไม้ บางส่วนครอบครัวนำดอกมะลิที่เก็บไปขายเองที่ตลาดในเขตเทศบาลนครขอนแก่น แต่ปีนี้ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้ช่วงวันแม่ปีนี้มีดอกมะลิให้ผลผลิตน้อย ขณะที่ราคาดอกมะลิปีนี้อยู่ที่กิโลกรัมละ 1,200 บาท
" สาเหตุที่ดอกมะลิขึ้นราคานั้น นอกจากใกล้ถึงวันแม่จึงทำให้ปริมาณความต้องการเพิ่มขึ้นกว่าปกติ นอกจากนี้ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มะลิไม่มีดอก และดอกโตช้า จากเดิมดอกมะลิกิโลกรัมละ 300 บาท แต่ช่วงนี้มีลูกค้าสั่งเพิ่มขึ้น จึงทำให้ราคาดอกมะลิเพิ่มขึ้นด้วย” นางสมบูรณ์ กล่าว
นอกจากนี้สถานการณ์โควิดและเศรษฐกิจทำให้คนสั่งซื้อพวงมาลัยดอกมะลิแบบเป็นพวงน้อยลง ขณะที่การจำหน่ายพวงมาลัยดอกมะลินั้น ปีนี้ราคาไม่สูงมากเริ่มต้นที่ 50 บาท ไปจนถึงราคา 200 บาท หรือจัดทำตามขนาดตามที่ลูกค้าสั่ง
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านขายดอกไม้สด และร้อยมาลัยขายที่ตลาดสดเอกชน ในเขตเทศบาลตำบลหนองฉาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ก่อนถึงวันแม่แห่งชาติ วันที่ 12 สิงหาคม 2565 ที่จะถึงนี้ จากการสอบถามนางนพพร สุขสุวานนท์ แม่ค้าขายดอกไม้สดและร้อยมาลัยดอกไม้สดขาย เป็น 1 ในหลายร้านในตลาดสดแห่งนี้ บอกว่าดอกมะลิปรับตัวสูงขึ้นมากว่า 2 เท่าตัว เมื่อ 2 – 3 วันก่อน ยังราคาแค่กิโลกรัมละ 300 บาท เท่านั้น และล่าสุดวันนี้ปรับราคาสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 1,000 บาท และคาดว่าถึงวันแม่ราคาน่าจะปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละไม่ต่ำกว่า 1200 บาท อย่างแน่นอน นอกจากนี้ราคาดอกไม้ที่ใช้ร้อยเป็นพวงมาลัยมือทั้งดอกลักษณ์ และดอกกุหลาบมอญ ก็ปรับราคาขึ้นเป็นเท่าตัว โดยดอกลักษณ์จากกิโลกรัมละ 120 ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 240 บาท ดอกกุหลาบมอญ ร้อยละ 50 -60 บาท ขึ้นเป็นร้อยละ 180 บาท
ทำให้แม้ค้าดอกไม้สด และร้อยมาลัยขาย ไม่กล้ารับดอกไม้ดังกล่าวไว้มาก เนื่องจากเศรษบกิจไม่ดีประชาชนต้องใช้เงินอย่างจำกัด ซึ่งจะรับดอกไม้ที่จะมาใช้ร้อยมาลัยมือที่ใช้สำหรับลูกค้าจะสั่งไปมอบให้กับแม่ในวันแม่แห่งชาติ เฉพาะลูกค้าที่สั่งร้อยมาลัยมือ และขายหน้าร้านบ้างเล็กน้อยเท่านั้น และต้องปรับราคาพวงมาลัยมือสำหรับวันแม่ในปีนี้ จากพวงละ 30 บาท ขึ้นเป็นพวงละ 50 บาท และจากพวงละ 100 บาท ขึ้นเป็น 150 บาท แต่ลูกค้าจำนวนมากก็จะสั่งซื้อพวงมาลัยมือที่ใช้ดอกพุทธแทน เพราะมีราคาถูกไปกว่าเท่าตัว ส่วนพวงมาลัยไหว้พระซึ่งต้องใช้ดอกมะลิ ดอกลักษณ์ และดอกดาวเรืองซึ่งปรับราคาขึ้นเหมือนกัน แต่ยังขายราคาเดิม ในราคาพวงละ 5 บาท และ 10 บาท แต่ต้องปรับลดจำนวนดอกมะลิ และดอกลักษณ์ในพวงมาลัยลดลง เพื่อให้ขายในราคาเดิมได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดากลุ่มแม่บ้านที่มีอาชีพร้อยมาลัยมะลิสดจำหน่ายในตำบลบ้านมะเกลือ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ แหล่ปลูกสวนมะลิที่ใหญ่สุดในจังหวัดนครสวรรค์ จับกลุ่มล้อมวงร้อยพวงมาลัยจากดอกมะลิสดเพื่อให้ทันส่งลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อส่งขายให้ทันช่วงวันแม่แห่งชาติ12สิงหานี้ เพราะว่ามีพ่อค้า แม่ค้าจากตลาดไทย และปากคลองตลาดมาสั่งซื้อไว้จำนวนมาก
นางน้ำฝน แพรงาม แม่ค้าขายส่งพวงมาลัย หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านมะเกลือ อำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ เปิดเผยว่า เป็นโอกาสสั้นๆของชาวบ้านช่วงวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหา ทุกปี เนื่องจากพวงมาลัยจากดอกมะลิสดนั้นคือสัญลักษณ์ของวันแม่ ทุกปีจะมีพ่อค้าจาก กทม.หรือจังหวัดอุทัยธานี เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และร้านค้าในตัวจังหวัดนครสวรรค์ลงมาว่าจ้างแม่บ้านและชาวบ้านบ้านมะเกลือ ซึ่งเป็นกลุ่มแม่บ้านที่มีฝีมือในการร้อยมาลัยดอกมะลิสดสวยงามมาก จนเป็นที่รู้กันในกลุ่มผู้ค้าว่าชาวบ้านบ้านมะเกลือยึดอาชีพปลูกมะลิขายและร้อยพวงมาลัยมะลิสดขายมาแต่รุ่นปู่ ย่า
“ขณะนี้ยอดสั่งพวงมาลัยมะลิสดเพิ่มช่วงนี้ 3 เท่าตัว จากเดิมมาลัยจากดอกมะลิขายส่งพวงละ 20 บาท เป็นปรับราคาขึ้นเป็นพวงละ 60 บาท สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชาวสวนมะลิในช่วงนี้วันละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทส่งผลยอดจำหน่ายโดยรวมในขณะนี้มีเงินหมุนเวียนจากธุรกิจขายพวงมาลัยดอกมะลิสด ซื้อขายดอกมะลิสดเฉลี่ยมีเงินหมุนเวียนในหมู่บ้านวันละ 7-8 หมื่นหรือนับแสนบาททุกวัน”