‘แอลพีพี’เร่งปั๊มรายได้Non-LPNลุย‘เซอร์วิสโพรไวเดอร์-เทิร์นคีย์’

‘แอลพีพี’เร่งปั๊มรายได้Non-LPNลุย‘เซอร์วิสโพรไวเดอร์-เทิร์นคีย์’

แอลพีพี เผยหลังโควิด “บริการมืออาชีพ-อสังหาฯ ฟื้น-ภาษีที่ดินเร่งแลนด์ลอร์ดพัฒนาที่ดิน” สบช่องรับเทิร์นคีย์สร้างโรงแรม ประจวบฯ มิกซ์ยูส ย่านสมุทรปราการ ล่าสุดร่วมทุน รพ.สินแพทย์ ให้บริการโรงพยาบาลในเครือ 15 แห่ง หวังสร้างรายได้กลุ่มลูกค้า Non-LPN แตะพันล้านปีนี้

นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน กรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พีพี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ในเครือแอล.พี.เอ็น. กล่าวว่า แอล พีพีฯ ได้มีการปรับโครงสร้างภายในองค์กรรองรับการเปลี่ยนแปลงของตลาดจาก 3 ปัจจัยหลัก ที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจบริการ ได้แก่ 1.หลังสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนคาดหวังบริการใหม่ๆ จากบริษัทบริหารนิติบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ในการให้บริการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) และ แม่บ้าน ที่มีความเป็นมืออาชีพที่ให้ความสำคัญสุขอนามัยเป็นการต่อยอดจากธุรกิจเดิม 

2.ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังชะลอมากว่า 2 ปี โดยเฉพาะอาคารสำนักงาน ที่มีการก่อสร้างมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ วัน แบงค็อก ทำให้ซัพพลายออฟฟิศ คอนโดมิเนียมในโซนพระราม 4 กลับมาคึกคักถือเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจบริการ และ 3.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้เจ้าของที่ดินต้องเร่งพัฒนาโครงการ มิเช่นนั้นจะมีการจัดเก็บเต็มจำนวนตามปกติจากที่ได้รับการยกเว้นมา 2 ปี

“ปัจจัยดังกล่าวเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ แอล พีพีฯ  ในการให้บริการลูกค้ากลุ่มนี้เป็น Non-LPN ที่จะเป็นลูกค้าสร้างรายได้หลักในอนาคตจากสัดส่วน 15% ในปัจจุบันเป็น 30% ในอนาคต”

อย่างไรก็ดี ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทได้เทิร์นคีย์จากลูกค้าที่ต้องการสร้างโรงแรมใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยอาศัยบริษัทก่อสร้างในเครือและพาร์ทเนอร์ในการให้บริการแบบครบวงจร พัฒนาจากที่ดินเปล่า ส่วนลูกค้าอีกรายอยู่ใน จ.สมุทรปราการ ที่อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลในการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสและอีก 2 รายอยู่ระหว่างการเจรจา

“เรานำประสบกาณ์จากการให้บริการกว่า 30 ปีมาต่อยอดเพื่อสร้างรายได้ให้บริษัทจากธุรกิจ Non-LPN โดยเปิดกว้างในทุกรูปแบบเพื่อให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ออกมารองรับกับพฤติกรรม ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ”

สำหรับแผนการตลาดในครึ่งปีหลัง บริษัทจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับโรงพยาบาลสินแพทย์เพื่อรองรับการบริการ Facility Management ในกลุ่มโรงพยาบาลจำนวน 15 แห่ง คาดมีรายได้เฉลี่ย 50-70 ล้านบาท/ปี จาก 3 งานบริการ ได้แก่ งานบริการรักษาความปลอดภัย งานบริการรักษาความสะอาด และ งานบริการช่างและวิศวกรรม เป็นส่วนหนึ่งการขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Non-LPN

พร้อมกับเปิดตลาดการขายงานบริการ Property Management, Engineering Service, Facility Management, Security and Cleaning ให้ลูกค้าในธุรกิจต่างๆ เช่น โรงพยาบาล โรงแรม สนามบิน ฯลฯ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น โดยทำตัวให้เป็น “เซอร์วิส โพรวายเดอร์” ชูจุดขายผู้เชี่ยวชาญหาพันธมิตรเข้ามาร่วมทุน โดยเปลี่ยนค่าใช้จ่ายของพันธมิตรให้เป็นรายได้ เหมือนกับที่ทำกับโรงพยาบาลสินแพทย์

จากแนวคิดดังกล่าวทำให้บริษัทมีการปรับโครงสร้างองค์กร แบ่งเป็นกลุ่มธุรกิจบริการ และกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ พร้อมขยายทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน IT และ New Business (Estate Consultant) และขยายขอบเขตงานบริการ Facility Management และ งานบริการรักษาความสะอาด เปิด Online Store ภายใต้ชื่อ Living 24 เพื่ออำนวยความสะดวกและลดค่าครองชีพให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการที่ LPP บริหาร ล่าสุดเปิดตัว LPP Call Center และ EOC (Emergency Operations Center) รองรับการให้บริการลูกค้าของงานบริการต่างๆ ในกลุ่มธุรกิจบริการ 24 ชม.

สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2565 มีรายได้ 472 ล้านบาท เป็นตามเป้าหมาย  471.5 ล้านบาท กำไรสุทธิ 60 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายวางไว้ที่ 47.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 126.5% ของเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งธุรกิจที่เติบโตโดดเด่น 3 อันดับแรก คือ งานบริหารชุมชน โครงการ Non-LPN เติบโต 45% งานบริการวิศวกรรม เติบโต 37.5% และงานบริการฝากขาย-ฝากเช่า เติบโต 35%

นายสุรวุฒิ กล่าวว่า คาดการณ์ปี 2565 บริษัทจะมีรายได้ 1,010.3 ล้านบาท จากเป้าหมายที่วางไว้ที่ 955 ล้านบาท เป็นปีแรกที่รายได้แตะ 1,000 ล้านบาท กำไรสุทธิ 99.16 ล้านบาท จากเป้าหมาย 98 ล้านบาท ธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น 3 อันดับแรก คืองานบริการวิศวกรรม เติบโตจากปี 2564 ประมาณ 77%