พฤกษารีดีไซน์ฝ่าต้นทุนพุ่งผุดโปรแกรมหนุนซื้อคอนโดเร่งเปิดโครงการ
พฤกษา แก้เกมต้นทุนพุ่ง-กำลังซื้อหด ปรับดีไซน์บ้านลดต้นทุน ผุดโปรแกรมหนุนลูกค้าซื้อคอนโด เร่งสปีดขยายศูนย์สุขภาพ-โครงการใหม่ ดันเป้ายอดขาย 3 หมื่นล้านปีนี้
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากต้นทุนวัสดุ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาส่งผลต้นทุนเพิ่มขึ้น 4-5% นั้น บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ “รี-ดีไซน์” แบบบ้านและใช้วัสดุที่เหมาะสมพัฒนาโครงการทำให้ต้นทุนลดลงแต่ยังคงได้พื้นที่เท่าเดิมและฟังก์ชั่นยืดหยุ่นขึ้นโดยไม่ปรับราคาขึ้น
พร้อมกันนี้ ออกโปรแกรม “PRUKSA PASS” (พฤกษาพาส) สามารถช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียม 4 โครงการระดับราคา 2-3 บ้านบาทได้ง่ายขึ้นโดยให้ทางเลือกในการผ่อนชำระค่างวดโดยตรงกับพฤกษาในระยะ 1-3 ปีแรก เปลี่ยนจากเช่าให้เป็นดาวน์ หลังจากเปิดตัว 2 สัปดาห์มียอดขาย 100 ยูนิต
ในส่วนธุรกิจเฮลท์แคร์มุ่งขยายศูนย์ฟื้นฟูและดูแสสุขภาพสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุในโครงการพฤกษา เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและความแตกต่างให้กับโครงการนั้นๆ ปีละ 3-4 โครงการเพื่อลดความเสี่ยง เพราะคืนทุนเร็วแทนที่จะลงทุนสร้างโรงพยาบาลใช้งบประมาณสูงและคืนทุนช้า
โดยใช้เงินลงทุน 90 ล้านบาท สร้างศูนย์ดูแลและฟื้นฟูสุขภาพสำหรับครอบครัวและผู้สูงอายุ “วิมุต เวลเนส” แห่งแรก เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 12 ส.ค.นี้
ล่าสุดร่วมกับ บริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัทร่วมทุน “บริษัท ปัน นิวเอนเนอจี จำกัด” ถือหุ้น 50:50 เป็นการต่อยอดและสร้างจุดแข็งใหม่สำหรับโครงการของพฤกษา โดยมีเป้าหมายดำเนินธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งโซลาร์รูฟ (Solar Roof) มูลค่าโครงการร่วม 1,500 ล้านบาท ทั้งการขายติดตั้งแบบเบ็ดเสร็จ (EPC) และการซื้อขายพลังงานแสงอาทิตย์ มีผลตอบแทนส่วนลดค่าไฟในระยะยาว (PPA) เพื่อช่วยลูกค้าลดเงินลงทุน และได้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด
สำหรับแผนครึ่งปีหลัง เตรียมเปิด 23 โครงการใหม่มูลค่ารวม 12,700 ล้านบาท เป็นแนวราบ 20 โครงการ มูลค่า 9,300 ล้านบาท รับไลฟ์สไตล์คนที่ต้องการพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้นจากการทำงานที่บ้าน การขายสินค้าออนไลน์ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการมูลค่ารวม 3,400 ล้านบาท รับตลาดคอนโดมิเนียมฟื้นตัวหลังสต็อกลดลงดีมานด์กลับมามากขึ้น
บริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้ในปีนี้ 33,000 ล้านบาท ยอดขาย 30,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) 21,500ล้านบาท ทยอยรับรู้ในช่วงที่เหลือของปีนี้
อย่างไรก็ตาม จากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 0.25% ทำให้ภาระการผ่อนเพิ่มขึ้น 4-5% แต่ปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบกับผู้บริโภคเพราะธนาคารยังตรึงดอกเบี้ยคาดอั้นได้ถึงสิ้นปีนี้ แต่ปีหน้าคงปรับขึ้น ดังนั้นผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน/คอนโดมิเนียมควรตัดสินใจในปีนี้
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/2565 มีรายได้รวม 5,389 ล้านบาท ในส่วนธุรกิจอสังหาฯ มียอดขาย (Presale) 6,342 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสก่อน 19% และยอดโอน 5,101 ล้านบาท ทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีขึ้นที่ 32.4% กำไรสุทธิอยู่ที่ 527 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกเปิด 8 โครงการมูลค่ารวม 3,627 ล้านบาท