HANA ราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวไปเรียบร้อยแล้ว

HANA ราคาหุ้นสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวไปเรียบร้อยแล้ว

ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ (ถดถอย) ทำให้ลูกค้าของ HANA หันมาให้ความสำคัญด้านการบริหารสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะในกลุ่ม smartphone และ PC ซึ่งผลการดำเนินงานอ่อนแอในไตรมาสที่สอง และคาดว่าจะยังอ่อนแอต่อเนื่องในครึ่งหลังของปีนี้

ถึงแม้ว่าอุปสงค์ของกลุ่มยานยนต์จะยังแข็งแกร่ง แต่อาจจะช่วยชดเชยกลุ่ม smartphone และ PC ได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ทั้งนี้ รายได้จาก smartphone และ PC คิดเป็นสัดส่วน 29% และ 7% ของรายได้รวมของ HANA ใน 2Q65 ในขณะที่รายได้จากกลุ่มยานยนต์คิดเป็น 18% มุมมองเชิงลบของผู้บริหาร HANA ต่อกลุ่ม smartphone และ PC เป็นไปตามมุมมองของ KGI Taiwan ซึ่งคาดว่ายอดส่งออก smartphone ทั่วโลกจะหดตัวลง 8% YoY ในปี 2565F ในขณะที่ยอดส่งออก PC ทั่วโลกจะลดลง 10% YoY ในปี 2565F ดังนั้น เราจึงคาดว่ายอดขายในไตรมาสที่สามจะไม่น่าตื่นเต้น ทั้งนี้ เนื่องจากยอดขายในงวด 1H65 คิดเป็น 49% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ดังนั้นเราจึงยังคงใช้สมมติฐานยอดขายปี 2565 ที่ 756 ล้านดอลลาร์ฯ (ทรงตัว YoY)

 

เงินบาทที่อ่อนค่าลงจะช่วยหนุนอัตรากำไร

อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย QTD อยู่ที่ 36.10 บาท/ดอลลาร์ฯ (จาก 32.90 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 3Q64 และ 34.40 บาท/ดอลลาร์ฯ US$ in 2Q22) ซึ่งค่าเงินบาทที่อ่อนลงจะช่วยหนุนอัตรากำไรของ HANA ในไตรมาสที่สาม ในขณะที่ส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก Powernaster semiconductor (PMS) มีแนวโน้มลดลงหลังจากที่มีการเตรียมอุปกรณ์สำหรับผลิตแบบ mass production และเริ่มทำการผลิตในช่วง 2Q65 ดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ HANA จะดีขึ้นในไตรมาสที่สาม ทั้งนี้ กำไรขั้นต้นของ HANA ใน 1H65 อยู่ที่ 12.3% จากสมมติฐานปีนี้ของเราที่ 13.1%

 

 

 

คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นใน 2H65

เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ HANA จะดีขึ้น QoQ ใน 3Q65 เพราะผลบวกจากอัตรากำไรขั้นต้นจะมีน้ำหนักมากกว่ายอดขายที่ซบเซา เรายังคงมองว่ารูปแบบกำไรของ HANA จะยังเน้นหนักในช่วงหลังของปี (โมเมนตัมของกำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H65) อย่างไรก็ตาม เราใส่แนวโน้มที่ดีขึ้นนี้เข้าไปในประมาณการของเราเป็นส่วนใหญ่แล้ว ในขณะที่กำไรจากธุรกิจหลักในงวด 1H65 คิดเป็น 47% ของประมาณการกำไรปี 2565 ของเรา ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรปีนี้เอาไว้เท่าเดิม

 

Valuation & action

เรายังคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 47.00 บาท อิงจาก PER ที่ 15.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีต -0.25 S.D.) และคงคำแนะนำ “ถือ” HANA

 

Risk

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลนวัตถุดิบ, เงินบาทแข็งค่าขึ้น (เราใช้สมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนปี 2565-2566 ที่ 34.50 บาท/ดอลลาร์ฯ