"ราคาแก๊สหุงต้ม" ปรับขึ้นวันแรก 1 ก.ย. 65 สำรวจร้านอาหาร โอดสู้ต้นทุนไม่ไหว

สำรวจราคาก๊าซหุงต้ม หรือ "ราคาแก๊สหุงต้ม" ในเขตเทศบาลเมืองเบตง จ.ยะลา พบว่าร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้มปรับราคาก๊าซหุงต้ม หลังจากที่กระทรวงพลังงาน มีมติปรับราคาก๊าซหุงต้มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท โดยที่มีการเริ่มปรับราคามาตั้งแต่เดือน เม.ย.65 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันนี้ราคาก๊าซหุงต้มในเขตเทศบาลเมืองเบตง ถังก๊าซ 15 กก. ถังละ 440 บาท ถัง 11 กก. 365 บาท ก๊าซปิกนิก 4 กก. 170 บาท ซึ่งจากการจ่อปรับราคาก๊าซหุงต้มในครั้งนี้ทำให้ผู้จำหน่ายก๊าซหุงต้มได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก

นางรอเม๊าะ ปาแนม๊ะ อายุ 58 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม เปิดเผยว่า หลังจากทราบข่าวการปรับขึ้นราคาของก๊าซหุงต้มในครั้งนี้ทางเราก็แจ้งกับลูกค้าถึงการปรับราคา โดยที่ลูกค้าส่วนใหญ่บอกกับเราว่าแบบนี้คงตายแน่ เพราะทุกวันนี้อะไรก็แพง ตนจึงอยากฝากไปยังรัฐบาลว่าการปรับราคาของก๊าซหุงต้มในครั้งนี้ ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายเพราะประชาชนเดือดร้อนเหลือเกิน และการปรับราคาก๊าซหุงต้มในครั้งนี้

นอกจากส่งผลกระทบกับผู้จำหน่ายแล้วยังส่งผลกระทบไปยังผู้ประกอบการร้านอาหารอีกด้วย ขณะที่ มาม่า ปรับราคา อย่าง มาม่า ซอง ละ 6 บาท ปรับขึ้นเป็นซองละ 7 บาท ส่วนแป้งทำขนม จากถุงละ 35 บาท ปรับขึ้นเป็น 40 บาท แป้งทอดกรอบจาก 32 บาท ปรับขึ้นเป็น 35 บาท ฝนก็ตก ยางก็ถูก กระทบไปหมดเลย นางรอเม๊าะ บอก

ด้าน เจ้าของร้านข้าวแกงเบตง บอกว่า ที่ร้านของตนใช้ก๊าซหุงต้มวันละถัง โดยใช้ถังละ 15 กก. ซึ่งใช้ในการทำข้าวแกงและอุ่นอาหาร ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเคยซื้อ ถัง 15 กก. ถังละ 435 บาท พรุ่งนี้ปรับขึ้นอีก 1 บาท แต่ยังไงก็ยังขายเหมือนเดิม หมูก็ขึ้นกิโลกรัมละ 230 บาทค่าไฟก็ขึ้น ค่าน้ำก็ขึ้น ค่าเช่าบ้านก็ขึ้น ขอฝากให้รัฐบาลช่วยดูราคาสินค้าอย่าปล่อยให้ขึ้นมาก สงสารคนหาเช้ากินค่ำบ้าง และอยากให้ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้เพราะนอกจากก๊าซหุงต้มที่เป็นสินค้าที่ประชาชนต้องใช้ประจำแล้วยังมีมีสินค้าอุปโภคบริโภคแทบทุกชนิดที่มีราคาแพง ซึ่งสวนทางกับรายได้ของประชาชนที่ยังคงเท่าเดิม

ผู้สื่อข่าว สำรวจร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้มภายในเขตเทศบาลนครตรัง พบว่าร้านค้าได้เร่งนำถังเปล่าขึ้นรถส่งไปอัดก๊าซหุงต้ม เพื่อนำมาตุนไว้สำหรับการจำหน่ายต่อไป เนื่องจากในวันที่ 1 กันยายน 2565 ก๊าซหุงต้มมีการปรับราคาอีกระลอก กก.ละ 1 บาท ทำให้ราคาก๊าซหุงต้มแต่ละขนาดราคาพุ่งสูงขึ้น ร้านจำหน่ายจึงต้องเร่งนำถังเปล่าไปอัดที่ปั๊มอัดก๊าซหุงต้ม ขณะที่ร้านค้า ร้านอาหาร และประชาชนทั่วไป ต่างก็เร่งนำถังก๊าซเปล่ามาเปลี่ยน นำไปเก็บไว้ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย หากนำมาเปลี่ยนในวันที่ 1 ก.ย. จะต้องจ่ายในราคาที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

 

 เจ้าของร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม “ทับเที่ยงแก๊ส” เขตเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ที่ร้านมีก๊าซหุงต้มจำหน่ายรวมประมาณ 50 ถัง ในวันนี้ลูกค้านำถังมาเปลี่ยนตลอดทั้งวัน ทำให้มีถังเปล่าเกิดขึ้น จึงต้องเร่งให้คนงานนำไปอัดก๊าซมาเก็บไว้ เพื่อไว้จำหน่ายต่อไป ซึ่งหากเก็บถังเปล่าไว้ไปอัดในวันที่ 1 กย. ก็ต้องจ่ายเพิ่มเช่นเดียวกัน ซึ่งพบว่าประชาชนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าก๊าซแพงมาก ทางร้านก็ยังปรับราคาตามที่มีการปรับขึ้น แต่ยังช่วยเหลือลูกค้าในการส่งฟรี หากระยะทางไม่เกิน 5 กม. เพื่อช่วยเหลือลูกค้า

ทั้งนี้ ยอดขายหายไปกว่าครึ่ง เหตุร้านค้า ร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารตามสั่งได้ปิดกิจการไปเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสู้ราคาต้นทุนการผลิตไม่ไหว ทำแล้วไม่ได้กำไร จึงหยุดขาย กระทบยอดขายก๊าซหายไปเกือบครึ่ง

เช่นเดียวกับปั๊มอัดก๊าซหุงต้มทุกแห่งใน จ.ตรัง พบว่าตลอดทั้งวันหนาแน่นไปด้วยลูกค้า ทั้งร้านจำหน่ายก๊าซ ร้านค้า ร้านอาหาร ผู้ประกอบการธุรกิจที่ต้องใช้ก๊าซหุงต้ม และประชาชนทั่วไป ต่างเร่งนำถังเปล่าไปอัดก๊าซมาเก็บไว้ก่อนที่จะต้องจ่ายสูงขึ้นในวันที่ 1 ก.ย.

ทั้งนี้ เจ้าของร้านข้าวแกง และร้านอาหารตามสั่ง บอกว่า เดือดร้อนกันอย่างหนัก เพราะวัตถุดิบทุกชนิดแพงขึ้นแล้วไม่ลง ขึ้นไปค้าง และก๊าซก็ยังขึ้นอีกต่อเนื่อง จะซื้อสต๊อกไว้ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีทุนมากพอ ซึ่งพอทำอาหารก็ต้องใช้พร้อมกัน1-3 ถัง ทำเดือดร้อนหนัก จะขึ้นราคาอาหารก็ไม่ได้ เพราะขายเด็ก นร.และสงสารลูกค้า บางวันขายก็ขาดทุน ชักหน้าไม่ถึงหลัง และหลายร้านที่เป็นร้านค้าใหม่ๆ อยู่ไม่ได้ ต้องเลิกขายไปจำนวนมาก ส่วนร้านที่อยู่ได้ส่วนใหญ่เป็นร้านเก่าแก่ ที่มีลูกค้าประจำ