"รัฐมนตรีบิมสเทค" ไฟเขียวเห็นชอบร่าง "วิสัยทัศน์กรุงเทพฯ 2030"
การประชุมระดับรัฐมนตรีบิมสเทค ครั้งที่19 เห็นชอบร่างวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ 2030 ปูทางไปสู่การลงนามบิมสเทคซัมมิทในปลายปีนี้ ภายใต้รัฐบาลใหม่ หวังเชื่อมโยงประชาชน การค้า คมนาคม และเศรษฐกิจในประเทศสมาชิกอ่าวเบงกอล
นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมระดับรัฐมนตรีบิมสเทคครั้งที่ 19 ว่า การประชุมนี้มีความสำคัญจัดขึ้นท่ามกลางที่โลกเผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การเมืองระหว่างประเทศและสถานการณ์ระดับภูมิภาคที่ส่งแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศสมาชิกบิมสเทคก็ได้รับผลกระทบด้วย
การประชุมระดับรัฐมนตรีบิมสเทคครั้งที่ 19 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธาน และนายวิชาวัฒน์ อิศรภักดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจากระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมในฐานะผู้แทนไทย
นายเชิดชาย เผยรองนายกฯดอนกล่าวย้ำว่า บิมสเทคจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อผลักดันให้บิมสเทคเป็นผู้เล่นในภูมิภาคที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันและสามารถมีบทบาทนำในการส่งเสริมให้อ่าวเบงกอลเป็นภูมิภาคที่ "ปลอดภัย มั่นคง และมีเสถียรภาพ"
ขณะเดียวกัน ก็สามารถมีบทบาทและส่วนร่วมต่อประเด็นระดับโลก เช่น การพัฒนามนุษย์ การพัฒนาสีเขียว ตลอดจนประเด็นความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ที่ประชุมได้เห็นชอบร่างวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ 2030 (Bangkok Vision 2030) ซึ่งเป็นเอกสารระดับผู้นำที่ไทยนำเสนอ เพื่อกำหนดทิศทางความร่วมมือบิมสเทคสู่การเป็นภูมิภาคที่มั่งคั่ง (Prosperous) ยั่งยืน ฟื้นคืน (Resilient) และเปิดกว้าง (Open) ภายในปี ค.ศ. 2030
"เอกสารนี้ มุ่งส่งเสริมให้บิมสเทคเป็นภูมิภาคแห่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความยั่งยืนทางเศรษฐกิจโดยเป้าหมายในวิสัยทัศน์สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในกรอบสหประชาชาติ และโมเดลเศรษฐกิจ BCG ของไทยด้วย" เชิดชายกล่าวย้ำ
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเอกสารผลลัพธ์ร่างวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ แล้วยังมีกฎระเบียบสำหรับกลไกการดำเนินงานภายใต้กรอบบิมสเทค (Rules of Procedure for BIMSTEC Mechanisms) และความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล (Agreement on Maritime Transport Cooperation) โดยเอกสารเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการหารือในการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6
เมื่อถามว่า เลือกตั้งทั่วไปของไทยที่จะมีขึ้นและช่วงรอยต่อทางการเมืองก่อนจะมีการจัดตั้งรัฐบาล จะส่งผลต่อการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมบิมสเทคหรือไม่ นายเชิดชายกล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบ เนื่องจากแผนการจัดประชุมได้มีการเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า ขณะที่การประชุมระดับเจ้าหน้าที่ก็มีต่อเนื่องไป
มีรายงานว่า คณะทำงานที่ดูแลการประชุมบิมสเทค มีแผนจะจัดประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการในกลางปีนี้ ซึ่งก็จะยังรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน ขณะที่การประชุมสุดยอดบิมสเทคที่กำหนดไว้เบื้องต้นเป็นวันที่ 30 พ.ย. 2566 อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้รัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นเวทีระหว่างประเทศครั้งแรกที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม