'เศรษฐกิจจีน' ความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม
ก่อนหน้านี้มีการประเมินว่า "เศรษฐกิจจีน" จะทยอยฟื้นตัวดีต่อเนื่อง แต่ความจริงกลับพบว่า จีนกำลังเผชิญภาวะยากลำบากทางเศรษฐกิจ เช่น อสังหาฯ ผิดนัดชำระหนี้เพิ่มอีก 2 แห่ง และหนี้ท้องถิ่นในจีนที่พุ่งสูง
เศรษฐกิจโลกยังมีประเด็นคำถามอยู่มาก ถึงความเสี่ยงที่เราอาจต้องเผชิญในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2566 ทุกคนเริ่มทำใจแล้วว่าปีนี้มีความเสี่ยงสูงที่โลกจะเผชิญกับ “มหาพายุ” ทางเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเผชิญกับภาวะถดถอย หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งขึ้นดอกเบี้ยแบบไม่บันยะบันยัง รวมไปถึงความเสี่ยงเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งคนในประเทศต้องแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้น แถมดอกเบี้ยยังปรับขึ้นซ้ำเติม แต่ตัวเลขเศรษฐกิจของทั้ง 2 กลุ่มประเทศนี้ยังนับว่าออกมาดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เอาไว้
ส่วน “จีน” ประเทศที่หลายคนตั้งความหวังว่าจะเป็น “เดอะแบก” ของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ หลังจากเปิดประเทศเมื่อช่วงต้นปี จนนักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกจากหลายสำนักประเมินว่าเศรษฐกิจจีนจะทยอยฟื้นตัวดีต่อเนื่อง กลายเป็นแสงสว่างที่ช่วยให้เศรษฐกิจโลกผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายไปได้ดี ...แต่ทว่าตัวเลขเศรษฐกิจจีนหลายๆ ตัวที่ประกาศออกมาดูจะไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิต ภาคอสังหาริมทรัพย์ รวมไปถึงปัญหาหนี้ต่างๆ ก็เริ่มส่งกลิ่น ชวนให้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในจีนประกาศผิดนัดชำระหนี้เพิ่มอีก 2 แห่ง คือ บริษัท เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตด จำกัด และบริษัท ลีดดิง โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ไม่สามารถชำระหนี้หุ้นกู้ที่ออกเป็นสกุลเงินดอลลาร์ได้ เนื่องจากยอดขายบ้านอ่อนตัวลง และขาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุก โดย เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตด เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่ใหญ่อันดับ 33 ในจีน ส่วน ลีดดิง โฮลดิ้งส์ นับเป็นบริษัทที่ไม่ได้ใหญ่มากนัก เพราะไม่ติด 1 ใน 100 อันดับแรกในจีน
ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีน แม้จะเริ่มดูดีขึ้นบ้างเมื่อเทียบกับช่วง 2 ปีก่อนหน้า แต่ก็ยังเผชิญภาวะที่ยากลำบากอยู่ โดยข้อมูลจาก China Beige Book ระบุว่า ทั้งธุรกรรมและราคาอสังหาฯ ในจีนลดลงอย่างมาก แต่ที่น่าห่วงยิ่งกว่าคือ “หนี้ท้องถิ่นในจีน” ซึ่งส่วนใหญ่เลือกระดมทุนผ่านการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อออกหุ้นกู้ (LGFV) ซึ่งถือเป็นเครื่องมือหาเงินของรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อไปใช้สำหรับการลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน
ปัจจุบัน หุ้นกู้ที่ออกโดย LGFV มีมูลค่ารวมกว่า 23 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 759 ล้านล้านบาท แถมปัจจุบันมีดีลที่ครบกำหนดชำระจำนวนมาก หากหุ้นกู้เหล่านี้ไม่สามารถหาเงินมาชำระหรือต่ออายุออกไปได้ จะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ ถึงตอนนั้นหายนะครั้งใหญ่จะมาเยือนเศรษฐกิจจีนในทันที ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ระดับโลกหลายคนก็เตือนให้จับตาดูปัญหานี้ใกล้ชิด เพราะดูเหมือนว่าความสามารถในการชำระหนี้ของ LGFV หลายแห่ง ดูจะน้อยลงเรื่อยๆ
...ทั้งหมดนี้คือความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่ยังพูดถึงกันค่อนข้างน้อย เราจึงไม่ควรมองข้ามปัญหาเหล่านี้ไป!