'ทักษิณกลับไทย' รู้จัก 2 ธุรกิจสุขภาพ ที่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ลงทุน ช่วงอยู่ต่างแดน 15 ปี
เมื่อ “ทักษิณ” กลับไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี นอกจากมุมด้านการเมืองแล้ว เขายังมีมุมที่น่าสนใจในฐานะนักลงทุนธุรกิจสุขภาพที่หลายคนอาจยังไม่รู้ ได้แก่ ธุรกิจตรวจมะเร็งจากลมหายใจ และธุรกิจคัดสรรอาหารที่เหมาะกับ DNA ของแต่ละคน
Key Points
- การตรวจหามะเร็ง โดยทั่วไปมักจะตรวจจากการตัดส่วนเนื้อเยื่อ และเจาะเลือด แต่สำหรับบริษัท Owlstone Medical สามารถตรวจมะเร็งจาก “ลมหายใจ” แทน
- ข้อมูลทางพันธุกรรมมนุษย์ หรือ DNA ถูกใช้คาดการณ์โรคร้ายในอนาคต และสามารถบอกภาวะสุขภาพในปัจจุบันได้
- เมื่อแต่ละคนมีสุขภาพและความเจ็บป่วยที่ไม่เหมือนกัน หากมนุษย์สามารถรับประทานอาหารที่ตรงกับ DNA ของตัวเองได้ ก็จะช่วยบรรเทาความเจ็บป่วย และมีสุขภาพที่ยืนยาวขึ้น
ในที่สุด “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย ก็เดินทางกลับถึงแผ่นดินไทยครั้งแรกในรอบ 15 ปี หลังจากถูกรัฐประหารยึดอำนาจสมัยเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2549 และออกนอกประเทศไปใช้ชีวิตในต่างแดนตั้งแต่ปี 2551
- ทักษิณ ชินวัตร กลับถึงแผ่นดินไทยครั้งแรกในรอบ 15 ปี (เครดิต: สุกฤษฏ์ สืบสาย, กรุงเทพธุรกิจ) -
นอกจากเป็นที่รู้จักในทางการเมืองแล้ว ทักษิณยังเป็นนักธุรกิจที่สนใจการลงทุนธุรกิจแห่งอนาคตต่าง ๆ ด้วย โดยเริ่มแรก เคยเป็นเจ้าของ “ธุรกิจด้านโทรคมนาคม” มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทดาวเทียมไทยคม และบริษัทชินวัตรคอมพิวเตอร์ หรือ INTUCH ในปัจจุบัน ที่เป็นเจ้าของเครือข่ายมือถือ AIS
ในยุคนั้น ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นที่นิยมอย่างมาก และเป็น “สิ่งใหม่” เมื่อทั้งโลกกำลังเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ โลกไร้พรมแดนและการค้าเสรีที่จะถูกเชื่อมเป็นหนึ่งด้วยโทรคมนาคม
ทักษิณได้คว้าโอกาสขณะนั้นไว้ จนทำให้เขาขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีซึ่งร่ำรวยที่สุดติดใน 20 อันดับแรกของไทย และมีมูลค่าทรัพย์สินราว 7 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน
เวลาต่อมา ระหว่างที่ทักษิณออกจากไทยไปอยู่ในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2551 เขาหันมาสนใจการลงทุนใน “ธุรกิจด้านสุขภาพ” ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มโลกในปัจจุบันที่กำลังเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยต้องการมีลูก และผู้สูงอายุปัจจุบันมีอายุขัยที่ยาวนานขึ้นจากความก้าวหน้าทางการแพทย์
จากการสืบค้นข้อมูลธุรกิจสตาร์ทอัพที่ทักษิณเลือกลงทุน ระหว่างใช้ชีวิตในต่างแดน 15 ปี พบว่า เขาลงทุนธุรกิจด้านสุขภาพอยู่ 2 บริษัท ได้แก่
- 1. บริษัท Owlstone Medical ตรวจหามะเร็งด้วยลมหายใจ
บริษัท Owlstone Medical เป็นสตาร์ทอัพสัญชาติอังกฤษ ซึ่งวัฒนา เมืองสุข อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย เคยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2560 ว่า ทักษิณได้ร่วมทุนกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cambridge โดยลงทุนเป็นสัดส่วนหุ้นในบริษัท 20%
โดยทั่วไป การตรวจหามะเร็ง มักจะตรวจจากการตัดส่วนเนื้อเยื่อ และเจาะเลือด แต่สำหรับบริษัท Owlstone Medical สามารถตรวจมะเร็งจาก “ลมหายใจ” แทน ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อว่า Field Asymmetric Ion Mobility Spectrometry (FAIMS Technology) ซึ่งสามารถตรวจมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก โดยเฉพาะมะเร็งปอด
สำหรับหลักการทำงานของเครื่องนี้ คือ เครื่องจะตรวจจับอนุภาคขนาดเล็ก ละอองน้ำมูก น้ำลาย เสมหะที่มีส่วนผสมของโปรตีน, DNA, เชื้อไวรัส, สารเมตาบอไลต์ ฯลฯ ที่สามารถบ่งชี้ความเสี่ยงการเป็นมะเร็งได้ และในปัจจุบัน บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเครื่องให้มีราคาต่ำลง เพื่อให้เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น
- 2. บริษัท DNANudge เลือกอาหารที่เหมาะกับ DNA เรา
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 ทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวและอดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของไทย ได้เข้าร่วมงานเปิดตัวสินค้าของธุรกิจ DNANudge ที่ทั้งคู่ได้ลงทุนไว้ ในงาน CES 2020 (Consumer Electronics Show) หรืองานจัดแสดงผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ ที่จัดขึ้นในลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ใช้ DNA วิเคราะห์อาหารที่เหมาะสมกับแต่ละคน
ทุกวันนี้ ข้อมูลทางพันธุกรรมมนุษย์ หรือ DNA ถูกใช้คาดการณ์โรคร้ายในอนาคต และสามารถบอกภาวะสุขภาพในปัจจุบันได้ เมื่อแต่ละคนมีสุขภาพและความเจ็บป่วยที่ไม่เหมือนกัน หากมนุษย์สามารถรับประทานอาหารที่ตรงกับ DNA ของตัวเองได้ ก็จะช่วยบรรเทาความเจ็บป่วย และมีสุขภาพที่ยืนยาวขึ้น
ด้วยเหตุนี้ บริษัท DNANudge จึงสร้างเครื่องมือหนึ่งที่ให้ผู้ใช้งาน นำ DNA ของตัวเองมาประมวลผล เพื่อบอกว่า อาหารแบบใดถึงจะเข้ากับ DNA ของตัวเอง
การใช้ตัวอย่าง DNA นั้น เริ่มจากนำไม้พันสำลีกวาดกระพุ้งแก้มของผู้ใช้ เพื่อเอาตัวอย่าง DNA ออกมา จากนั้นก็นำไม้พันสำลีนี้ใส่เข้าเครื่อง Nudge เพื่อตรวจหา DNA ภายใน และเชื่อมโยงข้อมูลกับห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ แอปพลิเคชัน DNA Nudge ในมือถือและสายข้อมือ ก็เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อต้องการรับประทานอาหารใด ก็เพียงนำมือถือหรือสายข้อมือนี้ สแกนฉลากอาหารนั้น เครื่อง DNANudge ก็จะประมวลผลข้อมูลอาหารกับ DNA ของผู้ใช้ที่ใส่เข้าไป แสดงเป็นสีไฟในสายข้อมือ ถ้าเป็นสีเขียว หมายถึง รับประทานได้ ถ้าเป็นสีแดง หมายถึง ไม่ควรรับประทาน
อีกทั้งในแอปฯมือถือ จะมีรายละเอียดแสดงว่า อาหารนั้นไม่ควรรับประทานเพราะอะไร มีโซเดียมมากเกินไปเท่าไร มีไขมันมากเกินไปหรือไม่ ให้พลังงานอะไร รูปแบบไหน โปรตีนเท่าไร ฯลฯ ก็จะแสดงออกมาให้เห็น พร้อมเสนอทางเลือกอาหารใหม่ให้ด้วย
อ้างอิง: owlstonemedical, owlstonemedical(2), owlstonemedical(3), thaksinofficial, forbes, dnanudge, facebook
