‘ซอฟต์พาวเวอร์’ ฝันใหญ่ของรัฐบาล
“ซอฟต์พาวเวอร์” จึงเป็นฝันใหญ่ของรัฐบาลที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ รวมถึงประชาชนที่จะส่งตัวแทนจาก 20 ล้านครอบครัว ภารกิจครั้งนี้จึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่ออธิบายสร้างความเข้าใจให้ผู้เกี่ยวข้องมีเป้าหมายตรงกัน
การประกาศนโยบายขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ เป็นความท้าทายของรัฐบาลในการใช้เป็นแนวทางสำหรับเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจ โดยมีการตั้งคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่ประกอบด้วยส่วนราชการและผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งหลายรัฐบาลที่ผ่านมามีการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์แต่ยังไม่สามารถนำไปสู่การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจได้ จึงทำให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มีหน่วยงานรัฐและผู้เชี่ยวชาญทุกด้านที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ขึ้นมาดำเนินการ
รัฐบาลกำหนดเป้าหมายเพิ่มรายได้ให้ประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ภายในระยะเวลา 4 ปีของรัฐบาล หรือเพิ่มรายได้ให้คนไทย 20 ล้านครัวเรือนประมาณ 2 แสนบาทต่อปี หรือประมาณ 16,000 บาทต่อเดือน โดยได้กำหนดแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุมทั้งแผนระยะ 100 วัน แผนระยะ 6 เดือน และแผนระยะ 1 ปี ในขณะที่การดำเนินงานให้ความสำคัญกับการดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมผลักดัน จึงเห็นผู้บริหารเอกชนหลายรายเข้ามาอยู่ในคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ
การดำเนินงานตามแผนงานที่ประกาศออกมาจึงใช้ทั้งการขับเคลื่อนของส่วนราชการและภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 11 อุตสาหกรรม เช่น อาหาร กีฬา เฟสติวัล ท่องเที่ยว ดนตรี หนังสือ ภาพยนตร์ เกม ศิลปะ การออกแบบ และแฟชั่น รวมทั้งการผลักดันผ่านกลไกกฎหมาย โดยจะมีการยกร่าง พ.ร.บ.ตั้งสำนักงาน Thailand Creative Content Agency รวมทั้งปรับปรุงกฎหมายทั้งในระดับ พ.ร.บ.และกฎกระทรวง เพื่ออำนวยความสะดวกในบางอุตสาหกรรม เช่น ภาพยนตร์
แผนงานที่รัฐบาลประกาศออกจึงเรียกได้ว่ามีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยเฉพาะการอบรมเพื่อเพิ่มศักยภาพบุคลากร โดยเป็นการฝึกอบรมคน 20 ล้านคน จาก 20 ล้านครอบครัว ตามโครงการ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นการ “รีสกิล-อัพสกิล” ครั้งใหญ่ของประเทศ โดยใช้กลไกของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองดำเนินการร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA) เพื่อมาอบรมเพิ่มทักษะที่สถาบันการศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา สถาบันอาชีวศึกษาหรือมหาวิทยาลัย
“ซอฟต์พาวเวอร์” จึงเป็นฝันใหญ่ของรัฐบาลที่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก ทั้งผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 11 อุตสาหกรรม รวมถึงประชาชนที่จะส่งตัวแทนมาครอบครัวละ 1 คน รวม 20 ล้านครอบครัว และหน่วยงานเกือบทุกกระทรวงที่ต้องมีส่วนเกี่ยวข้อง ภารกิจครั้งนี้จึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะต้องอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจเป้าหมายให้ตรงกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่ต่างกับหลายโครงการในรัฐบาลที่ผ่านมา และสุดท้ายจะกลายเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ