ราชกิจจาฯ ประกาศ! เปิดผับสถานบันเทิงถึงตี 4 เริ่มวันนี้ เช็ก กทม. จัดโซน
'ราชกิจจานุเบกษา' ประกาศแล้ว! กฎกระทรวง ขยายเวลาเปิดสถานบริการผับสถานบันเทิงถึงตี 4 นำร่อง 5 จังหวัด เริ่มวันนี้ (15 ธ.ค.66) เช็ก กทม. จัดโซน
กรณีเปิดสถานบริการผับสถานบันเทิงถึงตี 4 นั้น ล่าสุดวันที่ 15 ธันวาคม 2566 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกฎกระทรวง กำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 และมาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 6 แห่งกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ พ.ศ. 2547 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
'ข้อ 6 กำหนดเวลาเปิดทำการตามความในข้อ 1 ข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6/2 และข้อ 6/3 ถ้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันที่ 1 มกราคม จะเปิดทำการต่อไปจนถึงเวลา 06.00 นาฬิกาของวันรุ่งขึ้นนั้นก็ได้'
ข้อ 2 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 6/2 และข้อ 6/3 แห่งกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ พ.ศ. 2547
'ข้อ 6/2 สถานบริการที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมให้เปิดทำการได้ ดังนี้
(1) สถานบริการตามมาตรา 3 (1) (3) (4) และ (5) ให้เปิดทำการได้ตามเวลาที่กำหนดในข้อ 1 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 แล้วแต่กรณี ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น
(2) สถานบริการตามมาตรา 3 (2) ให้เปิดทำการได้ระหว่างเวลา 11.00 นาฬิกา ถึง 14.00 นาฬิกา และระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น
ข้อ 6/3 สถานบริการที่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือท้องที่อื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้เปิดทำการได้ ดังนี้
(1) สถานบริการตามมาตรา 3 (1) (3) (4) และ (5) ให้เปิดทำการได้ตามเวลาที่กำหนดในข้อ 1 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 แล้วแต่กรณี ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น
(2) สถานบริการตามมาตรา 3 (2) ให้เปิดทำการได้ระหว่างเวลา 11.00 นาฬิกา ถึง 14.00 นาฬิกา และระหว่างเวลา 18.00 นาฬิกา ถึง 04.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น'
โดย กฎกระทรวง เริ่มมีผลบังคับทันที ตั้งแต่วันนี้ (15 ธ.ค.66) เป็นต้นไป
ซึ่งเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2546 บัญญัติให้การกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และโดยที่เป็นการสมควรขยายเวลาเปิดสถานบริการที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม และสถานบริการที่ตั้งอยู่ในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือท้องที่อื่นตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศตามนโยบายของรัฐบาล จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
ซึ่งหลังจาก ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่กฎกระทรวง กำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2566 ให้นำร่องเปิดสถานบริการถึงตี 4 ในพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงสถานบริการที่ตั้งที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมทั่วประเทศ ให้เปิดบริการได้ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นได้ โดยกฎกระทรวงจะเริ่มผลบังคับทันทีตั้งแต่วันนี้ (15 ธ.ค.66) เป็นต้นไป
เช็ก กทม. จัดโซนรับเปิดผับสถานบันเทิงถึงตี 4
ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ร้าน/สถานบริการ/ผับ ที่จะสามารถเปิดให้บริการได้ถึงเวลา 04.00 น. ต้องเป็นสถานบริการตามใบอนุญาต ซึ่งในกรุงเทพมหานครมีทั้งหมด 207 แห่ง แต่ขณะนี้เหลืออยู่ประมาณ 140 แห่ง เนื่องจากบางแห่งได้มีการปิดบริการไปแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้ว สถานบริการอยู่ใน 3 โซนหลัก ได้แก่ รัชดา สีลม และ อาร์ซีเอ (RCA) ซึ่งจะมีการทำรายละเอียดออกมาร้านไหนว่าร้านไหนเข้าข่ายสถานบริการที่ได้รับอนุญาตบ้าง
สำหรับเงื่อนไข เปิดผับตี 4 เป็นการขยายเวลาให้สถานบริการใน 5 จังหวัด/พื้นที่ ดังต่อไปนี้ โดยเปิดให้บริการได้ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นได้ ได้แก่
สถานบันเทิง ผับ บาร์ ที่จะเปิดถึงตี 4 ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ร.บ.สถานบริการ 2546 และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 โดยเข้มงวดในมาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลดังต่อไปนี้
- บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
- บุคคลที่มีอาการมึนเมาสุราจนครองสติไม่ได้
ส่วนสถานบันเทิงที่จะเปิดผับตี 4 ต้องดำเนินตามมาตรการ ดังนี้
1. สถานบริการตรวจวัดแอลกอฮอล์ทางลมหายใจ ก่อนอนุญาตให้ขับขี่ออกจากสถานบริการ
2. วัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดทางลมหายใจแล้วพบว่า มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ให้สถานบริการจัดหาที่พักคอย และอำนวยความสะดวกเพื่อรอให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดทางลมหายใจลดลง ต่ำกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงอนุญาตให้ขับขี่ออกจากสถานบริการ
3. กรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่ยินยอมพักคอย ให้สถานบริการประสานให้เพื่อน/ญาติ ของผู้ใช้บริการขับขี่แทน
4. จัดบริการยานพาหนะ เพื่อส่งลูกค้าเดินทางกลับโดยคิดค่าบริการจากผู้ใช้บริการ โดยมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลและประเมินผลกระทบจากการขยายเวลาเปิดสถานบริการ
อ่านประกาศราชกิจจานุเบกษาฉบับเต็ม (คลิก)