เศรษฐกิจจีนพลาดเป้า สะเทือนทั้งแผ่นดิน

“ตลาดหุ้นไทย” วันพุธ (17 ม.ค. 67) ปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,380.65 จุด ลบ 21.07 จุด หรือลดลง 1.50% หลุด 1,400 จุดครั้งแรกของปี 2567 นักวิเคราะห์ชี้มาจาก 2 ปัจจัยกดดัน คือ จากตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐานลง ขณะที่บอนด์ยิลด์สหรัฐ และดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ปรับขึ้นค่อนข้างแรง

หลังจากคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) Christopher Waller แถลงว่า แม้เฟดมีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในปี 2567 แต่น่าจะปรับลดน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ณ ปัจจุบัน และไม่มีความจำเป็นที่จะรีบลดดอกเบี้ยเพราะตัวเลขเศรษฐกิจยังดีอยู่และเงินเฟ้อยังสูงกว่าเป้าหมาย

อีกหนึ่งปัจจัยที่ใกล้เข้ามาคือ ความกังวลเศรษฐกิจจีนที่ล่าสุดรายงานตัวเลข GDP ปี 2566 อยู่ที่ 5.2% ต่ำกว่าคาดที่ 5.3% ความผิดหวังต่อตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียแดงทั้งแผ่นดิน ตลาดหุ้นฮ่องกงหนักสุดอีกครั้ง ณ จุดหนึ่งดัชนีร่วงไปถึงกว่า 4%

เมื่อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ถูกเทขายอย่างหนัก ตลาดอื่นๆ ทั้งเซี่ยงไฮ้ ซิดนีย์ โซล สิงคโปร์ มุมไบ กรุงเทพฯ ไทเป เวลลิงตัน จาการ์ตา และมะนิลา หุ้นร่วงไม่แพ้กัน ลามไปถึงยุโรปช่วงเปิดตลาด เนื่องจากจีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก มีความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก ขืนจีนเป็นอะไรไปประเทศอื่นย่อมหนีไม่พ้นติดร่างแหไปด้วย 

ด้วยความยิ่งใหญ่ขนาดนี้จะไม่ให้พูดถึงจีนก็ไม่ได้ เพราะนอกเหนือจากปัญหาเศรษฐกิจแล้วจีนยังมีอีกหลายปัญหารุมเร้าส่งผลต่อเนื่องไปถึงเรื่องเศรษฐกิจ ที่สำคัญคือปัญหาด้านประชากร รู้ๆ กันอยู่ว่าจีนนั้นเข้าสู่สังคมสูงวัยไม่แตกต่างจากหลายๆ ที่ของโลก

ยิ่งปี 2566 ที่ผ่านมาประชากรจีนยิ่งลดลงเป็นประวัติการณ์เนื่องจากจำนวนคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นมากหลังจีนยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์เมื่อปลายปี 2565 อีกหนึ่งตัวเลขซ้ำเติมคือ ปี 2566 เด็กจีนเกิดใหม่ 9.02 ล้านคน ต่ำสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 ปีที่ผ่านมาประชากรจีนลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันกว่า 2 ล้านคน

ที่พูดมาฉอดๆ เรื่องจีนนี่มันเกี่ยวกับไทยตรงไหน? เกี่ยวแน่นอน ในเมื่อเศรษฐกิจจีนไม่ดี คนเกิดน้อย แถมคนหนุ่มสาวจีนก็ไม่อยากแต่งงานต่อให้เป็นคนมีสตางค์ก็เถอะ เพราะการจัดงานแต่งช่างสิ้นเปลือง ลองคิดดูในเมื่อเขาเองก็ต้องประหยัดทุกทางแล้วนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยที่หวังจับตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะเป็นอย่างไร

ตอนนี้หลายประเทศเอเชียเห็นแล้วว่า นักท่องเที่ยวจีนกลับมาจริงแต่ไม่มากอย่างที่คาดหวัง (เพราะตั้งความหวังไว้สูง) ดังนั้นก่อนเทศกาลท่องเที่ยวสำคัญอย่างสงกรานต์จะมาถึงเห็นทีผู้เกี่ยวข้องต้องเร่งวางกลยุทธ์หาตลาดเพิ่ม นี่เพิ่งต้นปียังมีเวลาตั้งตัว ย้ำว่าไม่ใช่เวลามาประมาทเพราะเศรษฐกิจจีนนั้นสร้างผลสะเทือนแรงจริงๆ