ใช้ 'ธ.ก.ส.' แจกเงินดิจิทัล รัฐบาลอย่าลืมเงินที่ค้าง 6 แสนล้าน
รัฐบาลได้ข้อสรุปว่าจะเอาเงินมาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567-2568 รวมถึงนำมาจากธ.ก.ส. มาใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท แต่รัฐบาลคงไม่ลืมว่ามีหนี้ค้าง ธ.ก.ส.อยู่ถึง 619,173 ล้านบาท
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลให้กับคนไทยที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป คนละ 10,000 บาท รวมแล้วใช้วงเงิน 500,000 ล้านบาท โดยที่มาของแหล่งเงินมาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จำนวน 175,000 ล้านบาท รวมถึงมาจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 จำนวน 152,700 ล้านบาท และก้อนสุดท้ายมาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 172,300 ล้านบาท ก้อนนี้ใช้แจกเกษตรกร 17 ล้านคน
ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาใช้กลไกของ ธ.ก.ส.ในการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสำหรับการดูแลเกษตรกร โดยทำให้ปัจจุบัน ธ.ก.ส.มีลูกหนี้รอการชดเชยจากรัฐบาลตามธุรกรรมนโยบายรัฐ 619,173 ล้านบาท ซึ่งแม้ว่ารัฐบาลจะไม่ผิดนัดชำระ รวมถึงทำให้ธนาคารมีรายได้จากค่าบริหารจัดการและดอกเบี้ย แต่ในบางช่วงเวลามีคำถามเกี่ยวกับสถานะการเงินของ ธ.ก.ส.และบางครั้งจำเป็นที่รัฐบาลต้องเพิ่มทุนให้ ธ.ก.ส.เพื่อให้ธนาคารให้การช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายรัฐบาลได้มากขึ้น
รัฐบาลเศรษฐา มีโครงการตามนโยบายรัฐบาลที่ใช้กลไก ธ.ก.ส.เหมือนกับทุกรัฐบาล โดยในช่วง 7 เดือน ที่ผ่านมาได้มีการอนุมัติไปแล้วหลายโครงการ และมีเงินให้สินเชื่อลูกหนี้ตามธุรกรรมนโยบายรัฐและดอกเบี้ยค้างรับสุทธิ อาทิ โครงการพักหนี้เกษตรกร วงเงิน 32,573 ล้านบาท โครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกปีการผลิต 2566/67 วงเงิน 1,286 ล้านบาท รวมถึงโครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวปีการผลิต 2566/67 วงเงิน 3,736 ล้านบาท
ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามหาช่องทางทางการเงินในการดำเนินการโครงการแจกเงินดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีปัญหาและอุปสรรคมาตลอดทำให้รัฐบาลไม่สามารถแจกเงินดิจิทัลได้ตามกำหนดเดิมที่ตั้งไว้ในเดือน ธ.ค.2567 และถ้าไม่มีเหตุสะดุดในประเด็นใดอีก รัฐบาลเชื่อว่าจะเริ่มแจกเงินดิจิทัลให้ประชาชนได้ในไตรมาส 4 ปี 2567 แต่ถ้ามีเหตุขัดข้องประกาศได้จะทำให้การแจกเงินลากยาวไปในปี 2568 และจะเป็นอีกนโยบายทำตามการหาเสียงได้ลำบากไม่ต่างจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท
ถึงแม้ว่าการจะมีผู้คัดค้านการนำสภาพคล่องของ ธ.ก.ส.มาใช้ดำเนินโครงการแจกเงินดิจิทัล แต่รัฐบาลคงจะเดินหน้าตามความตั้งใจของรัฐบาล โดยขณะนี้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ธ.ก.ส.ออกมาตั้งคำถามถึงข้อกฎหมายในการดำเนินการ และส่งหนังสือสอบถามความเห็นต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 หน่วยงาน ซึ่งท้ายที่สุดรัฐบาลก็คงเดินหน้าต่อ แต่รัฐบาลคงไม่ลืมว่าจะมีภาระของรัฐบาลและภาระของ ธ.ก.ส.ในอนาคตที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยเฉพาะเงินที่รัฐบาลยังค้าง ธ.ก.ส.อยู่ถึง 619,173 ล้านบาท