ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงต่อเนื่องกว่า 1% หลุด 82 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงต่อเนื่อง 3 วันทำการ ดิ่งลงกว่า 1% หลุด 82 ดอลลาร์ หลังพายุเฮอร์ริเคนเบริลไม่ได้สร้างความเสียหายรุนแรงต่อธุรกิจน้ำมัน
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลงกว่า 1% เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.) และลดลงต่อเนื่อง 3 วันทำการ หลังจากพายุเฮอร์ริเคนเบริลไม่ได้สร้างความเสียหายต่อธุรกิจการผลิตและกลั่นน้ำมันแนวชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกมากนัก
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) งวดส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 92 เซนต์ หรือ 1.12% อยู่ที่ 81.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) งวดส่งมอบเดือน ส.ค. ปิดลบ 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.27% อยู่ที่ 84.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานระบุว่า แม้พื้นที่ผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งบางส่วนของสหรัฐมีการอพยพประชาชน รวมทั้งมีการปิดท่าเรือและชะลอกำลังการกลั่น แต่โรงกลั่นขนาดใหญ่หลายแห่งในเขตกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากเฮอร์ริเคนเบริลขึ้นฝั่งและภายหลังได้อ่อนกำลังลงกลายเป็นพายุโซนร้อน
จอห์น คิลดัฟฟ์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Again Capital ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า มีรายงานว่ารัฐเท็กซัสและเมืองฮิวสตันไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากพายุเบริล โดยการผลิตน้ำมันในรัฐเท็กซัสมีสัดส่วนกว่า 40% ของอุปทานน้ำมันดิบทั้งหมดในสหรัฐ
รายงานระบุว่า ท่าเรือขนส่งน้ำมันส่วนใหญ่ในรัฐเท็กซัสได้กลับมาดำเนินการอีกครั้งเมื่อวานนี้ และโรงกลั่นบางแห่งก็กลับมาเร่งดำเนินการผลิตได้อีกครั้ง นอกจากนี้ โรงกลั่นน้ำมันอีกหลายแห่งเช่นโรงกลั่นของบริษัทมาราธอน ปิโตรเลียม ก็เตรียมเดินเครื่องการกลั่นน้ำมันอีกครั้ง
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังจาก ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะช่วยผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะงักงันต่อการขนส่งน้ำมันดิบในตลาดโลก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้