ราคาน้ำมันร่วงแรงกว่า 4% ตลาดเทขายคลายกังวลตะวันออกกลาง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 4% ในวันอังคาร (8 ต.ค.) หลังจากมีรายงานข่าวว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอลอาจจะทำข้อตกลงหยุดยิง และนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลหลังยังไม่เห็นสัญญาณที่อิสราเอลจะเอาคืนอิหร่าน จากกรณีถูกยิงขีปนาวุธถล่มกว่า 180 ลูก

• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 3.57 ดอลลาร์ หรือ 4.63% ปิดที่ 73.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
• ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3.75 ดอลลาร์ หรือ 4.63% ปิดที่ 77.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

ราคาน้ำมันร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์เปิดรับโอกาสการเจรจาหยุดยิง หลังจากกองกำลังทหารอิสราเอลยกระดับการโจมตีกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ด้วยการรุกคืบเข้าสู่พื้นที่ตอนใต้ของเลบานอน

ฟิล ฟลินน์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Price Futures Group กล่าวว่า นักลงทุนมีปฏิกิริยาต่อรายงานข่าวที่ว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์เปิดกว้างต่อการเจรจาหยุดยิง และคาดว่าราคาน้ำมันจะมีความผันผวนอย่างมากท่ามกลางความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันเบรนท์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกกลางจะลุกลามเป็นวงกว้างและส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำน้ำมัน

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดนั้น เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลยืนยันว่า อิสราเอลได้สังหารฮาเชม ซาฟิดดิน ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์คนต่อไป หลังจากกองทัพอิสราเอลได้โจมตีพื้นที่ตอนใต้ของกรุงเบรุต ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ โดยมีเป้าหมายสังหารฮาเชม ซาฟิดดิน