เชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำ สะท้อนวิกฤติศก.

เชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำ สะท้อนวิกฤติศก.

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะซึมเศร้า กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ย.2567 พบว่า อยู่ที่ระดับ 55.3 ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 56.5 เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 นับตั้งแต่เดือนมี.ค.2567

รวมทั้งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 14 เดือน นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566 เป็นต้นมา เช่นเดียวกับดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยโดยรวมก็ลดลงเช่นกันอยู่ที่ 48.8 จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 50.2

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลง มาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังชะลอตัวลง และฟื้นตัวช้า ทั้งความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นหลายจังหวัด สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรด้วย แม้รัฐจะเติมเงินหมื่นเข้าระบบให้กลุ่มเปราะบางและผู้พิการเป็นเงินรวมๆ กว่า 1.45 แสนล้านบาท ก็ยังไม่ค่อยได้ผล 
   

ความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทย เป็นตัวชี้วัดสำคัญสะท้อนถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมประเทศ เมื่อผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นสูง ก็มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ กลับกันหากความเชื่อมั่นต่ำ ผู้บริโภคมักระมัดระวังการใช้จ่าย และชะลอตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการที่ไม่จำเป็น ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง 
   

ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค สะท้อนถึงความรู้สึกของประชาชนต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และรายได้ในปัจจุบันและอนาคต เมื่อความเชื่อมั่นสูง มักส่งผลให้เกิดการบริโภคและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังมีผลต่อการตัดสินใจของภาคธุรกิจในการลงทุนและขยายกิจการ เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของธุรกิจ
   

ดังนั้นเพื่อพลิกฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภค รัฐบาลต้องดำเนินมาตรการที่เป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ เริ่มจากการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลังที่เหมาะสม ส่งเสริมการจ้างงานและการเพิ่มรายได้ให้ประชาชน รวมถึงการลดภาระค่าครองชีพ ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว 

เมื่อผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ก็จะกล้าใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น เป็นการกระตุ้นการผลิตและการบริการในภาคธุรกิจ นำไปสู่การจ้างงานเพิ่ม เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นที่สูงยังดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ที่สำคัญการสื่อสารที่ “ชัดเจน” และ “โปร่งใส” เกี่ยวกับนโยบาย มาตรการ รวมถึงแผนพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนได้