'นีลเส็น'เผยคนไทย97%ชอบลองของใหม่

'นีลเส็น'เผยคนไทย97%ชอบลองของใหม่

นีลเส็น เผยผลสำรวจ 97% นักช้อปไทย ชอบเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มออกใหม่สูงสุดในเอเชีย

นีลเส็น เผยผลสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมการซื้อและทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าออกใหม่พบว่า นักช้อปไทยกว่า 97% เคยซื้อสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่ออกใหม่ในระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่ตื่นตัวกับการออกสินค้าใหม่ มากที่สุดในเอเชีย

การสำรวจดังกล่าว เป็นการเก็บข้อมูลพฤติกรรมด้านการซื้อสินค้าออกใหม่จากผู้บริโภค 29,000 คน ใน 58 ประเทศ ผ่านทางอินเตอร์เนต พบว่า ผู้บริโภคไทย เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความกระตือรือร้นต่อสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่ออกใหม่มากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ตามมาด้วยประเทศจีน และฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม ความคุ้นเคยต่อแบรนด์ก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการเลือกซื้อสินค้าออกใหม่ โดย 68% เลือกที่จะซื้อสินค้าออกใหม่จากแบรนด์ที่คุ้นเคย และคนไทยเพียง 3 ใน 10 คนเท่านั้นที่สนใจจะเปลี่ยนไปเลือกซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่ไม่เคยใช้

“การสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์เดิม ที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าแล้ว น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับผู้ผลิตที่ต้องการส่งสินค้าใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดที่มีการเติบโตรวดเร็วอย่างประเทศไทย” อัลบานี วู รองประธานกรรมการฝ่าย Innovation ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคจากนีลเส็นกล่าว

จากการสำรวจพบว่า แม้ว่าผู้บริโภคไทย 2 ใน 3 คน หรือ 66% จะพอใจที่ได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นจากสินค้าออกใหม่ แต่คนไทยจำนวนเดียวกันนี้ ก็ยังต้องการรอจนกว่าสินค้าออกใหม่จะเป็นที่ยอมรับในตลาดก่อน จึงจะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้านั้นๆ โดยมีเพียง 1 ใน 3 ที่เต็มใจจะจับจ่ายซื้อสินค้าใหม่ที่มีราคาสูงกว่าเดิม

ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคในตลาดเอเชียแปซิฟิค มักจะชื่นชอบสินค้าภายใต้แบรนด์ระดับโลก ยกเว้นเพียงประเทศไทย ที่เกือบครึ่งหนึ่งของผู้บริโภค หรือ 45% โน้มเอียงความนิยมมาทางแบรนด์ในประเทศมากกว่า
ในแง่การโฆษณา เมื่อเทียบกับผู้บริโภคทั้งเอเชีย คนไทยเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับสื่อโทรทัศน์มากที่สุด โดยคนไทยจำนวนมากถึง 6 ใน 10 ระบุว่าโทรทัศน์ ถือเป็นแหล่งข้อมูลแรกที่ตนได้รับทราบเกี่ยวกับสินค้าออกใหม่ และ 8 ใน 10มีแนวโน้มจะตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าออกใหม่ตามโฆษณาที่เห็นผ่านทางโทรทัศน์


นอกจากนั้น การสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดวางชั้นสินค้าในร้านค้า โดยมากกว่า 8 ใน 10 ของผู้บริโภคไทย หรือ 84% ทดลองซื้อสินค้าออกใหม่จากการเห็นสินค้าบนชั้นวาง ซึ่งแตกต่างจากผู้บริโภคอื่นในภูมิภาค ที่ให้ความสำคัญกับคำบอกเล่าปากต่อปากจากเพื่อนและคนในครอบครัวมากกว่า

แม้ว่าเราจะเล็งเห็นถึงอัตราการเจริญเติบของตลาดทั่วภูมิภาคเอเชียแฟซิฟิค รวมไปถึงความต้องการที่มากขึ้นในหมู่ผู้บริโภค สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นข้อรับรองว่าการสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ จะประสบความสำเร็จเสมอ 3 สิ่งที่ผู้ผลิตควรคำนึงถึงอันเป็นหัวใจสำคัญสู่ความสำเร็จในการพัฒนาและทำตลาดสินค้าออกใหม่คือการค้นหา ‘โจทย์’ ของผู้บริโภคที่ไม่เคยมีใครตอบได้มาก่อน, การนำเสนอจุดขายของสินค้าที่มีความแตกต่างจากในตลาดอย่างชัดเจน, และการพัฒนาสินค้าให้พร้อมวางตลาดได้ทันที ผู้ผลิตใดสามารถตอบโจทย์ทั้งสามข้อนี้ได้จะมีโอกาสในการประสบความสำเร็จมากกว่าคู่แข่งในตลาดสินค้าใหม่ในประเทศไทย