'ตัน'ร่วมพันธมิตรญี่ปุ่นสร้างโรงแรมในพม่า

"ประธานบริษัท อิชิตัน"ลงทุนโรงแรมร่วมพันธมิตรกับญี่ปุ่น ใช้งบไม่เกิน400ล้านบาท คาดไม่เกิน2ปีก่อสร้างเสร็จ
นายตัน ภาสกรนที ประธานบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด ให้สัมภาษณ์"กรุงเทพธุรกิจทีวี"เรื่อง"แผนลงทุนโรงแรมในพม่า"ร่วมกับนักลงทุนญี่ปุ่น ใช้งบประมาณทั้งหมดไม่เกิน 400 ล้านบาท
นายตัน กล่าวว่าการเปิดโรงแรมที่พม่า คือมีพันธมิตรทุนญี่ปุ่นที่เขาทำเรียลเอสเตสอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วก็อนาคตเขาก็จะมาลงทุนที่เมืองไทย แต่ว่าเขาไปลงทุนที่ญี่ปุ่นไป 1 โรงแรมแล้ว และก็เขาจะทำโรงแรมที่ 2 ก็ชวนไปร่วมหุ้นด้วย ก็เพิ่งไปดูทำเลมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยชิโมกาเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่น มีการทำพวกโรงแรม ออฟฟิศ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์เป็นหลัก และก็ทำมา 30 ปีแล้ว ก็มีความเชี่ยวชาญ และก็อยู่ในอาชีพมา มีโนว์ฮาวของอยู่แล้ว ที่ประเทศญี่ปุ่นอาจจะอิ่มตัวแล้ว ก็เลยมาขยายลงทุนต่างประเทศ
"จะลงทุน 400 ล้านบาท มีทั้งหมดประมาณ 90 ห้อง เป็นโรงแรมบวกเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เพราะว่าเขาเป็นญี่ปุ่นอยู่แล้วก็มีลูกค้า โดยที่คนญี่ปุ่นไปลงทุนที่พม่ามาก ก็อย่างที่บอกเขาสร้างไป 1 โรงแรม ของเขาเล็กๆ อันนี้จะเป็นโรงแรมใหญ่กว่าที่เขาสร้างอันแรก"นายตัน กล่าว
นายตัน ย้ำว่า กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่ม นักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นด้วย เพราะเป็นชาวญี่ปุ่น เพราะมีพันธมิตรบริษัทที่ไปลงทุน ญี่ปุ่น จะเชื่อถือคนที่เป็นญี่ปุ่นด้วยกัน แต่ล่าสุดทางรัฐบาลพม่ามีการเวนคืนที่ดินจากกลุ่มเอกชน ก็มีนักลงทุนหลายๆ คนมีความกังวลใจถึงการไปลงทุนที่พม่า ตรงจุดนี้ถ้าจะลงทุนพม่า ต้องเสมือนว่าพร้อมที่จะเสียเงินก้อนนั้น ต้องทำใจได้ก่อน ถ้าไม่ได้แนะนำว่าอย่าไปลงทุน เพราะพม่ายังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุกวัน อย่างที่ไปพม่า ขณะนั่งรถ สี่แยกไฟแดงเขามีขายกฎหมายการลงทุนของพม่าฉบับของเดือนธ.ค.
"แต่ขณะเดียวกันที่ไปคุยกับนักธุรกิจ พม่ามีฉบับม.ค.แล้ว กลับมาวันที่ 21ม.ค. พม่ามีฉบับใหม่อีกแล้ว ก็ยังเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลาอยู่ เพราะฉะนั้นต้องทำใจได้ว่าสมมุติ คือตอนนี้โอกาสดีธุรกิจดีมาก แต่มีความเสี่ยงมากๆ หาอะไรแน่นอนไม่ได้เลยเปลี่ยนได้ทุกวัน"
นายตัน กล่าวแนะนำ สำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจจะไปลงทุนในพม่า ต้องบอกว่าโดยเฉพาะธุรกิจบางธุรกิจตอนนี้ดีมาก อย่างสมมุติโรงแรมเคยราคานี้แทบจะต้องนับรายวันเลย แต่นั่นหมายถึงว่าต้องอย่าเอาทุน หรือทรัพย์สมบัติของคุณไปลงทุนที่พม่าแบบเอาเป็นเอาตาย เสี่ยงตาย เพราะเหมือนกับว่าเป็นเงินที่คุณไปแล้ว ถ้าเกิดถูกยึดไปแล้วคุณก็ไม่ไปก็อาจจะลงทุนได้ เพราะว่าคงไม่ถูกยึดทุกคน คงไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย อาจจะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงแล้วก็อาจกระทบตรงนั้น
"จะบินไปพูดคุยเพิ่มเติมกับกลุ่มชิโมกา จริงๆผมพาครอบครัวไปเที่ยวที่ฮอกไกโดแล้ว ถือโอกาสเจอกัน เขาก็ไม่ได้สนใจที่ลงทุนที่พม่า แต่จริงๆ แล้วก็สนใจที่ลงทุนเมืองไทยด้วย แล้วเขาอยากทำธุรกิจกับผมที่กรุงเทพฯ และศรีราชาด้วย ฉะนั้นเราไปคุยเรื่องของกรุงเทพฯ และศรีราชาด้วย ไม่ใช่พูดเรื่องลงทุนพม่า เพราะพม่าตัดสินใจไปแล้ว ถ้าทุกอย่างไม่เปลี่ยนแปลง แล้วก็จะยื่นเอกสารไปขอส่งเสริมการลงทุนผ่านก็ลงทุน โรงแรมนี้ประมาณไม่เกิน 400 ล้าน ก็ประมาณครึ่งหนึ่ง ส่วนกรุงเทพฯ การตีราคาเดี๋ยวต้องคุยกัน เพราะเป็นโปรเจคใหญ่มาก "
นายตัน กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าเกิดว่าคนไทยสนใจต้องการไปพักโรงแรมคุณตัน คาดว่าน่าจะได้ไปพักประมาณจากนี้ไปไม่เกินกว่า 2 ปี เพราะตัวโรงแรมแค่ 1.2 หมื่นตารางเมตร ก่อสร้างคงไม่นาน ต้องใช้เวลาขออนุญาต 6-8 เดือน ใช้เวลาสร้างประมาณปีครึ่ง ตรงนี้ทางญี่ปุ่นเขาประเมินไว้