“อีเกิลส์ กรุ๊ป”เชื่อมจิ๊กซอร์"เอสเอ็มอีค้าส่ง"

“อีเกิลส์ กรุ๊ป”เชื่อมจิ๊กซอร์"เอสเอ็มอีค้าส่ง"

“อีเกิลส์ กรุ๊ป”ไม่ได้มอบแค่บริการด้านโลจิสติกส์แต่ประกาศจุดยืนเป็น“logistics partner”พันธมิตรคู่คิด ที่ปรึกษาด้านโลจิสติกส์ให้กับทุกธุรกิจ

“ถ้าไม่มีปัญหา งานก็ไม่มาถึงเรา ทุกวิกฤติ มีคนเกิดและมีคนตาย ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถในการปรับตัว แต่คนจะปรับตัวก็ต่อเมื่อมีวิกฤติ ถ้าอยู่แต่ใน Comfort zone คุณก็จะไม่ปรับตัว ฉะนั้นยิ่งวิกฤติ ยิ่งปรับตัว”

มุมคิดขับเคลื่อนธุรกิจ แบบฉบับ “วัลภา สถิรชวาล” ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท อีเกิลส์ แอร์แอนด์ซี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจบริการด้านโลจิสติกส์มากว่า 2 ทศวรรษ

ธุรกิจของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1990 โดยวัลภาร่วมกับสามีชาวสิงคโปร์ ก่อตั้งบริษัทรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) ขึ้น ก่อนจะพัฒนามาเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร

ธุรกิจที่เริ่มจากเล็ก เป็น “ธุรกิจครอบครัว” ขนานแท้ ในวันนี้ “อีเกิลส์ กรุ๊ป” เติบใหญ่จนมีบริษัทในเครือมากถึง 9 บริษัท มีพนักงานนับ 250 ชีวิต ครอบคลุมบริการด้านการขนส่งครบวงจร ตั้งแต่ให้บริการเขตปลอดอากร (free zone) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง การจองระวางเรือ ระวางขนส่งสินค้าทางอากาศ บริการขนส่งและกระจายสินค้า การขนส่งสินค้าผ่านแดน การทำระบบ pick and pack ทำ domestic tracking ทำประกันภัยให้กับลูกค้า หรือจะเป็นโปรเจคเฉพาะกิจ อย่าง เหมาลำเครื่องบิน เพื่อขนย้ายสิ่งของขนาดใหญ่ไปต่างประเทศ เป็นตัวแทนสายการบินในการบริหารระวางเครื่องบิน เช่น สายการบิน Jetstar Airways สายการบิน Tiger Airways เหล่านี้ เป็นต้น

ในวันที่กระแสอาเซียนโถมเข้าใส่ อินทรีอย่างอีเกิลส์ สยายปีกไปมี 2 บริษัท อยู่ในพม่า และอีก 1 บริษัทที่สิงคโปร์ ผนึกพลังเครือข่ายจากทั่วโลก ประกาศความพร้อมให้บริการในน่านน้ำที่ใหญ่ขึ้น

ทำไมกิจการยังเดินหน้าได้ ทั้งที่อยู่ในธุรกิจซึ่ง “อ่อนไหว” ไปกับสารพัดสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจ การเมือง ความผันผวนของค่าเงิน ต้นทุนพลังงาน ค่าแรงที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง..หมู่มวลโจทย์หนักที่พร้อมฉุดธุรกิจให้ทรุดฮวบ

“เพราะเราเชื่อว่า คนที่จะเติบโตได้ ต้องผ่านวิกฤติมามาก ก็เหมือนกับเพชร ยิ่งเจียระไน เหลี่ยมมุมเยอะ ก็จะยิ่งแวววาวและมีคุณค่า ฉะนั้นปัญหามีอยู่แล้วในทุกธุรกิจ แต่ถ้าใครแก้ปัญหาได้ คนนั้นก็ได้การค้าไป”

แม่ทัพ อีเกิลส์ กรุ๊ป สะท้อนความเชื่อของเธอที่กลายมาเป็นหมากสำคัญในการเดินเกมธุรกิจทุกวันนี้ นั่นคือ การไม่อ่อนข้อให้วิกฤติ และกล้า “ลงทุน” แม้วันที่วิกฤติพุ่งเข้าใส่

อย่างวันที่ค่าแรงปรับเพิ่มขึ้น อีเกิลส์ กลับเดินหน้าขยายกิจการ และจ้างงานเพิ่ม เพราะไม่อยากเสียโอกาสในตลาดอาเซียน ที่กำลังจะเปิดประตู ขณะที่ 5 ปี ก่อนหน้านี้ แม้เศรษฐกิจจะไม่หอมหวาน สถานการณ์ในประเทศยังคงสั่นคลอน แต่กล้าก็ลงทุน “จัดหนัก” เพื่อพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มาสร้างโอกาสให้ธุรกิจ ที่มาของการมีระบบซอฟต์แวร์มาลดภาระงาน ระบบเบอร์โทรศัพท์หมายเลขเดียว มีแผนสำรองกับการมีสาขามากกว่าหนึ่งสาขา เพื่อรองรับการทำงานอย่างต่อเนื่องเมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน พนักงานใช้โน้ตบุ๊กสื่อสารข้อมูลระหว่างกัน เชื่อมโยงระบบบัญชี การบริหารจัดการผ่านออนไลน์ จะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ และยังสามารถบริการลูกค้าในต่างประเทศได้ แม้นั่งทำงานอยู่เมืองไทย ขณะที่รถขนสินค้าก็มีจีพีเอส ติดตามการเดินทาง..เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างของการลงทุนสวนทางวิกฤติ เพื่อเติบใหญ่ในแบบ อีเกิลส์ กรุ๊ป

“ยิ่งวิกฤติ ยิ่งต้องลงทุน เพราะนี่จะทำให้การบริการของเราสมบูรณ์ขึ้น ลูกค้าจะเกิดการความสะดวกสบาย และขีดความสามารถในการแข่งขันของเราก็จะเพิ่มขึ้นด้วย”

วิกฤติทำให้เห็นโอกาสในการลงทุน ขณะเดียวกันก็มองเห็น “ธุรกิจใหม่” ที่ซ่อนอยู่ในวิกฤตินั้น เช่นเดียวกับการขยายบริการไปสู่กลุ่ม"เอสเอ็มอีค้าส่ง"

“ช่วงที่มีโรคซาร์ ปัญหาการเมืองในบ้านเรา ทำให้ลูกค้าต่างประเทศที่เคยมาซื้อสินค้าจากประตูน้ำไปขาย ก็เข้ามาไม่ได้ ผู้ประกอบการบ้านเราก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ในตอนนั้นเราช่วยลูกค้าโดย เขาไม่ต้องเดินทางมาเอง แค่สั่งออเดอร์ และโอนเงินมา พร้อมกับรายการสินค้าที่ต้องการ แล้วเราจะตามออเดอร์ให้ ตรวจนับสินค้า และจ่ายเงินร้านค้าให้ โดยไม่มีคอมมิสชั่น ขอแค่เขาส่งของกับเราเท่านั้น” บริการที่เริ่มต้นจากแค่ อยากให้ลูกค้าได้รับความสะดวกแม้ในวันวิกฤติ กลับกลายเป็นบริการใหม่จากพวกเขาในวันนี้

นั่นคือ การพัฒนาโซลูชั่นสำหรับลูกค้าเอสเอ็มอีรายเล็ก ที่ไม่ได้สิทธิประโยชน์ในเขตปลอดอากรเหมือนผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยจะทำหน้าที่เชื่อมระหว่างร้านค้าประตูน้ำ กับบายเออร์ในต่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้ผู้ค้ารายเล็ก ไม่ต้องบินมาประเทศไทยเพื่อช้อปสินค้าไปขาย เพียงแต่ใช้บริการอีเกิลส์ ในการประสานร้านค้า เพื่อสั่งสินค้า ตรวจนับ ตรวจสอบ ชำระเงิน ตลอดจนจัดส่งถึงปลายทางให้

“ร้านค้า ก็ไม่ต้องกลัวว่าส่งของให้เราแล้วจะไม่ได้เงิน เพราะถ้าลูกค้ายังไม่โอนเงินมาให้ แม้เราได้ของก็จะไม่ปล่อยออกจนกว่าจะได้เงินจากลูกค้าปลายทางเช่นกัน วิธีนี้เรียกว่าวิน-วิน กันทุกฝ่าย เราช่วยให้เอสเอ็มอีทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น เขายังทำธุรกิจปกติ ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม และไม่ต้องเสียอะไร เขามุ่งเน้นผลิตสินค้าที่ดีให้ลูกค้า ส่วนเราก็มุ่งเน้นในการพัฒนาการบริการด้านโลจิสติกส์ เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับลูกค้าของเราเช่นกัน”

และนี่คือสิ่งที่ตอบจุดยืนการเป็น “Your logistics partner” ของพวกเขา

ความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ จะยังเป็นแต้มต่อในเกมธุรกิจนับจากนี้ เธอบอกว่า ยังสนุกกับการคิดโปรเจคใหม่ๆ เพราะเชื่อว่า ธุรกิจถ้าไม่สร้างนวัตกรรม ไม่มีอะไรใหม่ ก็ไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ให้กับสินค้าหรือบริการได้

“ถ้าเรายังเป็นเหมือนเดิม ก็ต้องอยู่ในทะเลเลือด (Red Ocean) ต่อไป แต่เราพยายามสื่องานที่มีนวัตกรรม และสร้างสรรค์ส่งใหม่ๆ ออกมา ซึ่งเมื่อสร้างไปถึงระดับหนึ่ง ก็จะกลายเป็นของธรรมดา นั่นคือเหตุผลที่ต้องสร้างสิ่งใหม่ไปเรื่อยๆ แต่เรื่องพื้นฐานก็ไม่ทิ้ง ยังคงทำอยู่และพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ”

ที่มาของโครงการมากมายที่เธอยอมรับว่า สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง เพราะบางไอเดียก็อาจมาเร็วเกินไป เช่น “ฮาลาลโลจิสติกส์” บริการขนส่งสินค้าฮาลาล โดยปฏิบัติถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามทุกประการ ที่เธอบอกว่า ยังไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร และเป็นตลาดที่ยังต้องใช้เวลา แต่นั่นก็เป็นบทเรียนสำคัญว่า ธุรกิจไม่ใช่แค่ คิด ทำ แล้วจะประสบความสำเร็จในทันที แต่ต้องผ่านโจทย์หนักๆ และความยากตลอดเส้นทาง จึงจะกลายเป็น “ของจริง” ในสนามนี้ได้

“ความสำเร็จในเรื่องๆ หนึ่ง ไม่ได้มาจากปัจจัยเดียว แต่มีทั้งปัจจัยภายนอกและภายในองค์กร อยู่ที่ว่าเราต้องไม่หยุดที่จะคิด และต้องไม่กลัวที่จะล้ม แล้ววันหนึ่งก็คงประสบความสำเร็จได้” เธอประกาศความเชื่อ

อีเกิลส์ กรุ๊ป มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ถึงวันนี้เธอบอกว่า ธุรกิจยังคงต้องต่อสู้ ท่ามกลางการแข่งขัน ที่รุนแรง ซึ่งเธอบอกว่า แม้เออีซีจะยังไม่เปิด แต่ธุรกิจส่วนใหญ่ก็ถือหุ้นโดยต่างชาติเยอะอยู่แล้ว เรียกว่ายอดขายเกือบ 80% ในตลาด เป็นของบริษัทขนาดใหญ่ เมื่อเป็น “ปลาใหญ่” ก็ “กินใหญ่” นั่นยิ่งทำให้รายเล็กๆ อยู่ยาก และเหนื่อยมากขึ้น

แต่เธอบอกว่า ก็ขอต่อสู้แบบเล็กๆ โดยจะทำงานอย่าง “มืออาชีพ” ให้บริการด้วยความจริงใจ ยึดหลัก “ขยัน ประหยัด และอดทน” ทำธุรกิจด้วยความระมัดระวัง และมองแผนเรื่องการลงทุนอยู่เสมอ เติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป มีเงินเก็บเป็นทุน ไม่กู้หนี้มาสร้างในสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ถ้าจะกู้ ก็ต้องเพื่อก่อรายได้ และเป็นความมั่นในคงระยะยาว เท่านั้น

นี่คือมุมคิดของพญาอินทรี ที่ชื่อ “อีเกิลส์” ผู้พร้อมอาสาเป็น “Logistics partner” ให้กับธุรกิจไทย

.......................................

Key to success
ผงาดแบบ “อีเกิลส์ กรุ๊ป”
๐ มองวิกฤติ เป็นโอกาส
๐ ลงทุนในวิกฤติ เพื่อผงาดในวันฟ้าใส
๐ ขยายธุรกิจจากความเชี่ยวชาญ
๐ ขยับบทบาทเป็น Logistics partner
๐ พัฒนานวัตกรรมเพิ่มคุณค่าให้ธุรกิจ
๐ ขยัน ประหยัด อดทน
๐ ไม่กู้หนี้ เพื่อทำสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้