แบรนด์มังกรท่องไทย 'ตงฟงมอเตอร์ส'

"การเดินทางหลายพันลี้ เริ่มจากการก้าวเท้าก้าวแรกเสมอ" สุภาษิตจีนที่ หม่า เจี้ยนชาง รองประธานบริหาร บริษัท ดี เอฟ เอส เค มอเตอร์ส หรือ ตงฟง เสี่ยวคัง (ประเทศจีน)
เปรียบเสมือนการเดินทางของ ตงฟงมอเตอร์ส (ประเทศไทย) ที่วันนี้เดินทางเข้าสู่ปีที่ 5 และเขาเชื่อว่า 5 ปีสำหรับการก้าวเดินในไทยจะเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวสู่พันลี้ได้ในตลาดโลก
ตงฟงมอเตอร์สคอร์ปอเรชั่น (ประเทศจีน) ก่อตั้งเมื่อปี 1969 เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยยอดผลิตกว่า 3 ล้านคันต่อปี ที่ผ่านมาได้รับการจัดอันดับ 20 ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และ อันดับ 145 ของโลก กระทั่งในปี 2008 ได้เล็งเห็นศักยภาพและเริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยโดยให้บริษัท ตงฟงมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำเข้าและทำตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์ ภายใต้แบรนด์ ตงฟงมอเตอร์ส(DFSK)
อาศัยจากประสบการณ์ของธุรกิจครอบครัวในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์รายใหญ่ในไทย การมองหารถยนต์จากแดนมังกรเข้ามาจำหน่ายเป็นหนึ่งในช่องทางที่ พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟงมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด มองว่าการนำเข้า รถยนต์เชิงพาณิชย์ ตงฟง มินิทรั๊ค และ ตงฟง มินิแวน เข้ามาจำหน่ายเป็นอีกตลาดที่เต็มไปด้วยโอกาสเติบโตอีกมากในไทย
โอกาสที่ พิทยา พูดถึงมาจากอัตราการเติบโตของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในไทยกว่า 2 แสนรายที่จะเป็นกลุ่มผู้ใช้รถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดเล็กนี้ เฉพาะ 4 ปีของการทำตลาด ผลักดันยอดขายได้แล้วถึง 4.5 พันคัน ทำให้มองเห็นโอกาสของตลาดที่จะเติบโตได้อีกมากจากผู้เล่น 3 แบรนด์หลักในวันนี้ ได้แก่ ซูซูกิ ทาทา และตงฟง พร้อมกับแผนการเติบโตอยู่ที่ 50% ในสิ้นปี
แต่การจะก้าวถึงจุดนั้นได้ พิทยา ยอมรับว่าต้องออกแรงในหลายๆ ด้าน เพื่อให้รถยนต์แบรนด์นี้เข้าไปอยู่เป็นทางเลือกแรกๆ ของเอสเอ็มอีไทย
"ต้องยอมรับว่า กำแพงที่สำคัญของการทำตลาดก็คือ แบรนด์จีน กับทัศนคติของผู้บริโภค ทำให้ต้องทำงานมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการให้บริการหลังการขาย และเงื่อนไขด้านการเงินเพื่อให้ผู้ซื้อที่เป็นกลุ่มเอสเอ็มอีเอื้อมถึง"
"พันธมิตรธุรกิจ-เทคโนโลยี-บริการ" จึงเป็น 3 หัวใจของการดำเนินงานในไทยที่ พิทยา มองว่า เป็นปัจจัยของการเติบโตทั้งในวันนี้ และในอนาคต
"พันธมิตรธุรกิจ" แน่นอนว่า การเจาะตลาดเอสเอ็มอีซึ่งมีกำลังซื้อค่อนข้างจำกัด การจะทำให้รถยนต์แบรนด์นี้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย ด้วยเงื่อนไข ดาวน์น้อย ผ่อนต่ำ ก็เป็นแรงจูงใจให้ซื้อ และเร่งยอดขายให้เติบโต ซึ่งก็ได้ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ ลีสซิ่ง กสิกรไทย เข้ามาเป็นพันธมิตรทางการเงินที่แข็งแกร่ง
"เทคโนโลยี" การพัฒนาเทคโนโลยีเป็นแนวทางที่บริษัทแม่จากประเทศจีนให้การสนับสนุน เพื่อให้ได้รถยนต์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานโลก แต่ราคาในราคาที่จับต้องได้ คือ เริ่มต้นที่ 2.9 แสนบาทไปจนถึง 3.39 แสนบาท
"บริการ" เมื่อแบรนด์ยังเป็นข้อจำกัดของการตัดสินใจ พิทยา เชื่อว่า ศูนย์บริการหลังการขายเป็นสิ่งหนึ่งที่มาเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันมีผู้มีแทนจำหน่ายแล้ว 45 สาขาทั่วประเทศ และมองถึงการขยายเน็ตเวิร์คต่อเนื่องเพื่อรองรับการสู่การรุกตลาดเออีซี ในปี 2015
นอกจากศูนย์บริการแล้ว การลงทุนกว่า 200 ล้านบาทขึ้นสำหรับการก่อสร้างโรงงานผลิตในจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นอีกหนึ่งแนวทางการสร้างการยอมรับในตลาด รวมถึงการเตรียมพร้อมเป็นฐานการผลิตส่งออกรถยนต์ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะขยายกำลังการผลิตให้เป็น 10,000 คันต่อปีทันทีที่เออีซีเปิดฉาก
“เราเป็นค่ายรถที่เน้นพัฒนาพื้นฐานของธุรกิจ ทั้งโรงงานผลิต การพัฒนาทีมขาย และบริการหลังการขาย โดยมองถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดรถพาณิชย์ รถมินิทรั๊ค มินิแวน อาศัยความได้เปรียบด้านต้นทุนและคุณภาพ และโฟกัสตัวเองในตลาดเอสเอ็มอี ทั้งในไทย และประเทศเพื่อนบ้าน"
ปัจจุบัน จำหน่าย มินิทรั๊ค 2 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 1,100 CC และ 1,300CC, มินิแวน รถตู้เพื่อการพาณิชย์ 2 รุ่น ขนาดเครื่องยนต์ 1,100 CC และ 1,300CC และรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง รุ่น V27 ขนาดเครื่องยนต์ 1,300CC ทุกรุ่นใช้เบนซินและ LPG โดยกำลังการผลิตที่ขยายจะเป็นตัวเร่งให้ตลาดโดยรวมเติบโต กับแผนเปิดตัวรุนรุ่นใหม่อีก 4 รุ่น
โดยเชื่อมั่นว่า รถยนต์ตงฟงจะสามารถก้าวเข้าสู่ความเป็นค่ายรถยนต์ชั้นนำในไทยและ เออีซี
....จับจังหวะเต้นของแบรนด์มังกร ท่องไทย ในชื่อ ตงฟง จะก้าวไปได้ไกลแค่ไหนกับเป้าหมายใหญ่การเป็นเบอร์ต้นๆ ในไทยและในอาเซียน