นานมีบุ๊คส์เปลี่ยนแบรนด์ช็อปเปิด'แว่นแก้ว'รุกหนังสือเด็ก

นางสาวคิม จงสถิตย์วัฒนา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด เปิดเผยว่าได้ปรับโฉมธุรกิจรีเทล บุ๊ค ช็อป จากเดิมใช้ชื่อ "นานมีบุ๊คส์" เป็นร้าน "แว่นแก้ว" โดยได้ขอรับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามปากกา "แว่นแก้ว" ให้เป็นชื่อร้านหนังสือ พร้อมวางแนวคิดใหม่เป็นร้านหนังสือเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัวแห่งแรกของประเทศ โดยใช้งบลงทุน 5 ล้านบาท เปิดร้านแว่นแก้ว นำร่องสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 3 และในปีนี้เตรียมขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ขอนแก่นและเชียงใหม่ ภายในปีหน้าจะเปลี่ยนชื่อร้านนานมีบุ๊คส์ ที่มีอยู่ 6 สาขาในกรุงเทพฯ ให้เป็นร้านแว่นแก้วทั้งหมด

การปรับเปลี่ยนธุรกิจร้านค้าปลีกหนังสือโดยวางตำแหน่งเป็นร้านหนังสือเด็ก มีสัดส่วนหนังสือเด็กทุกสำนักพิมพ์ 90% อีก 10%เป็นสื่อการสอนและหนังสือสำหรับผู้ใหญ่แนวสร้างแรงบันดาลใจ เพราะเห็นช่องว่างทางการตลาดที่ไม่มีร้านหนังสือเด็กโดยเฉพาะ มีเพียงมุมหนังสือเด็กรวมอยู่ในร้านจำหน่ายหนังสือทั่วไปโดยจำหน่ายหนังสือเด็กทุกกลุ่มทั้งแต่อายุ 3-18 ปี ขณะที่หนังสือเด็กเยาวชนและครอบครัวแบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้ถึง 20 หมวด และนานมีบุ๊คส์มีจุดเด่นหนังสือเด็กและสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็ก ในแต่ละปีจะเปิดตัวหนังสือเด็กปกใหม่ราว 250 ปก เป็นสัดส่วนมากที่สุดเมื่อเทียบกับสำนักพิมพ์อื่นๆ

"ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวหรือไม่ หนังสือเด็กยังเติบโตเมื่อเทียบกับหนังสือกลุ่มอื่นๆ ในอัตรา 20-30% รวมทั้งปีนี้ ที่ภาพรวมอุตสาหกรรมหนังสือมูลค่า 2หมื่นล้านบาท ขยายตัวเพียง 3-5% เท่านั้น เนื่องจากพ่อแม่ยังคงลงทุนซื้อหนังสือเด็กเพื่อเสริมความรู้ให้ลูกอย่างต่อเนื่อง พบว่าผู้ปกครองใช้จ่ายต่อบิลราว 500 บาทที่นานมีบุ๊คส์" นางสาวคิมกล่าว

นายสิโรตม์ จิระประยูร รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด บริษัทนานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่าได้เข้ามาร่วมงานกับนานมีบุ๊คส์ ตั้งแต่เดือน พ.ย.2555 โดยมีประสบการณ์การบริหารร้านเอเซียบุ๊คส ประมาณ 9 ปี สำหรับการบริการธุรกิจรีเทล บุ๊ค ช็อปของบริษัทนานมีบุ๊คส์นับจากนี้ ดำเนินการภายกลยุทธ์ "แซทเทิลไลท์ ช็อป" ที่จะเป็นทั้งร้านจำหน่ายหนังสือ คลังสินค้ากระจายหนังสือของนานมีบุ๊คส์ให้กับเชนร้านหนังสือต่างๆ รวมทั้งเป็นโชว์รูมหนังสือสำหรับโรงเรียนต่างๆที่ต้องการสั่งซื้อ โดยจะเปิดสาขาร้านแว่นแก้วในศูนย์การค้าในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพิ่มเติม

สำหรับรายได้ของบริษัทในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 600 ล้านบาท ปีนี้คาดมีรายได้ 850 ล้านบาท เติบโตทั้งกลุ่มหนังสือเด็ก ,การพัฒนาหลักสูตรการสอน และหลักสูตรอบรมบุคลากรทางการศึกษา