พานาโซนิคเลิกทำธุรกิจทีวีพลาสมา

รายงานข่าวระบุว่า มีกระแสคาดการณ์มานานแล้วว่า พานาโซนิค จะเลิกดำเนินกิจการธุรกิจที่ไม่ทำกำไร อย่างการผลิตจอทีวีพลาสมา ซึ่งล่าสุด ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สุดรายหนึ่งของญี่ปุ่น ก็ได้ประกาศแผนการปิดธุรกิจนี้ ภายในสิ้นปีงบการเงินปัจจุบัน นับถึงวันที่ 31 มีนาคม 2557

แผนการข้างต้นเกิดขึ้นเร็วกว่าที่หลายฝ่ายเคยประเมินไว้ และยังเน้นให้เห็นถึงการตัดสินใจของนายคาสุฮิโร สึกะ ประธานบริหาร ที่ต้องการกำจัดการดำเนินงานที่อ่อนแอออกไป เพื่อมุ่งเน้นในสินค้าที่ให้ส่วนต่างผลกำไรในระดับสูง ในความพยายายามที่จะยุติภาวะขาดทุนของบริษัทที่ดำเนินมานานหลายปี

ธุรกิจโทรทัศน์ของพานาโซนิค ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทมียอดขาดทุนใน 2 ปีงบการเงินล่าสุด โดยรวมที่ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยในปีงบการเงินที่ผ่านมา ธุรกิจนี้ มีตัวเลขขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 913 ล้านดอลลาร์

การเคลื่อนไหวข้างต้น ยังส่งสัญญาณให้เห็นว่า ญี่ปุ่นเดินทางมาถึงยุคสิ้นสุดของเทคโนโลยี ที่ครั้งหนึ่งผู้ผลิตโทรทัศน์เคยทุ่มการลงทุนอย่างหนัก เพราะมีเทคโนโลยีอย่างจอภาพคริสตัลเหลว (แอลซีดี)เข้ามาแทนที่ โดยข้อมูลจากดิสเพลย์เสิร์ช บริษัทด้านการวิจัย แสดงให้เห็นว่า ในปี 2555 โทรทัศน์พลาสมา มียอดขายไม่ถึง 6% ของยอดขายโทรทัศน์ทั่วโลก เทียบกับโทรทัศน์แอลซีดีที่ 87%

ทั้งนี้ เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้บรรดาผู้ผลิตโทรทัศน์ญี่ปุ่น ต่างสูญเสียความได้เปรียบในเรื่องการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในประเทศอื่น อย่าง ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ของเกาหลีใต้ ซึ่งมีเงินทุนจำนวนมากสำหรับใช้จ่ายในด้านการวิจัย และพัฒนา

ที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่เครื่องใช้ไฟฟ้าญี่ปุ่น อย่าง โซนี่ คอร์ป พานาโซนิค และชาร์ป คอร์ป มีส่วนแบ่งในตลาดทีวีจอแบนโลก ในแง่รายได้ รวมแล้วไม่ถึง 20% เทียบกับซัมซุงที่มีอยู่ 27.7% และแอลจี อิเล็กทรอนิกส์ อิงค์ ที่ 15%

พานาโซนิค ระบุด้วยว่า บริษัทยังคงพิจารณาถึงทางเลือกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจจอโทรทัศน์พลาสมา แต่ยังไม่มีการตัดสินใจอะไรเกิดขึ้น