การบินไทยใช้ไทยสมายล์ลุยหาดใหญ่

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการพาณิชย์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องจากการบินไทยเป็นสายการบินระดับพรีเมี่ยม และทำการบินในลักษณะเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย (Network) ในขณะที่การบินไทยสมายล์ ซึ่งเป็นสายการบินลูก ที่การบินไทยถือหุ้น 100% ทำการบินระหว่างจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง (Point to Point) จึงเหมาะกับตลาดหาดใหญ่ ยังมีความคล่องตัวในการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินให้เหมาะกับความต้องการของตลาดอีกด้วย เนื่องจากตลาดหาดใหญ่มีการแข่งขันที่รุนแรงจากสายการบินต้นทุนต่ำ ทั้งในด้านราคาและความถี่ของเที่ยวบิน จึงทำให้การบินไทยจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับการตลาด และให้สอดคล้องกับปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร โดยจะให้การบินไทยสมายล์ทำการบินในเส้นทางไปกลับ กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินให้มากขึ้น จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. 2557 เป็นต้นไป

ส่วนการบินไทยจะหยุดทำการบินในเส้นทางดังกล่าวเป็นการชั่วคราว โดยปัจจุบันการบินไทยทำการบินในเส้นทาง ไปกลับ กรุงเทพฯ - หาดใหญ่ วันละ 1 เที่ยวบิน ขณะที่ การบินไทยสมายล์ทำการบินวันละ 3 เที่ยวบิน เมื่อการบินไทยสมายล์มาทำการบิน จะเพิ่มความถี่เป็น วันละ 5 เที่ยวบิน และมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็นวันละ 6 เที่ยวบิน ในอนาคต ทำให้สามารถตอบสนอง ความต้องการด้านตารางเวลาบินได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่ใช้บริการการบินไทยสมายล์ ยังคงใช้บริการในการจองและออกบัตรโดยสาร ผ่านสำนักงานขายของการบินไทย และตัวแทนจำหน่ายของการบินไทยทุกแห่ง นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังคงใช้บริการห้องรับรองพิเศษที่สนามบินได้เช่นเดิม รวมถึงสมาชิกบัตรทอง รอยัล ออร์คิด พลัส และลูกค้าของธนาคารที่เป็นคู่ค้ากับการบินไทย

ที่ผ่านมา การบินไทยสมายล์ได้รับความนิยมจากตลาดหาดใหญ่เป็นอย่างดี ซึ่งการบินไทยสมายล์ยังมีแผนที่จะจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นตลาดและส่งเสริมการขายให้มากขึ้นต่อไป

สำหรับประเด็นที่พนักงานสถานีหาดใหญ่ มีความกังวลเรื่องสถานภาพของความเป็นพนักงานนั้น บริษัทฯ ขอยืนยันว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ไม่มีนโยบายให้พนักงานออกแต่อย่างใด เพราะการบินไทยสมายล์ยังคงต้องใช้บริการภาคพื้นจากการบินไทย ทั้งนี้ หากสภาวการณ์ของตลาด รวมทั้งหากมีปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น การบินไทยอาจพิจารณากลับมาบินเสริมร่วมกับ การบินไทยสมายล์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของตลาด