'คาราบาวแดง'ลุยส่งออกอาเซียนกู้ยอด
พิษการเมือง-เศรษฐกิจ ฉุดตลาดชูกำลังไตรมาสแรกซบ "คาราบาวแดง" ลุยขยายฐานส่งออกอาเซียน เจาะพม่า เวียดนาม รับบริโภคพุ่ง หวังดันยอดปีนี้โต 6%
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง ภายใต้แบรนด์ “คาราบาวแดง” เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังไตรมาสแรกที่ผ่านมาว่า ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบทางการเมือง รวมถึงภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบกับอารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภค
ขณะที่ แนวโน้มตลาดไตรมาส 2 นี้ ยังไม่เห็นดัชนีชี้วัดในทิศทางดีขึ้น ผู้ประกอบการยังต้องเกาะติดสถานการณ์ต่างๆ แต่หากปัญหาการเมืองคลี่คลาย เชื่อว่าตลาดครึ่งปีหลังจะมีการเติบโต 5-6%"
สำหรับ ยอดขายเครื่องดื่มคาราบาวแดงในไตรมาสแรก เติบโต 10-12% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะเติบโต 20% เป็นผลจากปัจจัยลบดังกล่าวข้างต้น
"กระแสข่าวค่ายคู่แข่งเตรียมทำตลาดสินค้าแบรนด์เดิมที่มีอยู่ในท้องตลาด หลังจากที่ซื้อกิจการมาได้ระยะหนึ่ง มองว่าเป็นเรื่องปกติที่จะทำตลาดสินค้าทื่มีอยู่ในมือ เป็นเรื่องของการแข่งขัน เชื่อว่าไม่น่าจะกระทบกับยอดขายสินค้าแต่อย่างใด"
ในปีนี้คาราบาวแดงจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยปี 2556 มีสัดส่วนการส่งออก 25% เพิ่มจากปี 2555 ที่มีสัดส่วน 20% ทำให้มองเห็นโอกาสทางการตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในภูมิภาคอาเซียนมีแนวโน้มการเติบโตสูง
"คาราบาวแดงเน้นทำตลาดอาเซียนเป็นหลัก ปัจจุบันขยายตลาดใน 10 ประเทศ อาทิ พม่า เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย ลาว และฟิลิปปินส์ โดยยอดขายเครื่องดื่มคาราบาวแดงในกัมพูชา มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง"
ทั้งนี้ ตลาดประเทศพม่า และเวียดนาม ถือเป็นตลาดที่สำคัญและมีศักยภาพ เพราะที่ผ่านมามีการบริโภคและการเติบโตของตลาดในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะพม่าที่มีการเติบโตสูง เป็นผลมาจากภาคการลงทุนในประเทศที่มีการขยายตัวอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดนำเข้าสินค้าอย่างเสรี โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง
ในส่วนของความคืบหน้าของการทำตลาดในบังคลาเทศและอินเดียนั้น ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะยังไม่ได้คู่ค้าที่ดีพอ ประกอบกับทั้ง 2 ประเทศนี้ มีรูปแบบการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ยากต่อการดำเนินธุรกิจ อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีทีมงานที่คอยประสานงานและติดต่อธุรกิจ รวมถึงการศึกษาตลาด เก็บข้อมูล และหาความรู้ด้านการประกอบธุรกิจ เพื่อทำตลาดต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ทางด้าน "เสริมสุข" หลังเข้าซื้อกิจการบริษัท เครื่องดื่มแรงเยอร์ (2008) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง “แรงเยอร์” และ “พาวเวอร์ พลัส” และกาแฟกระป๋อง “แบล็คอัพ” ปลายปีที่ผ่านมา เตรียมทำตลาด “แรงเยอร์” อย่างจริงจัง โดยได้ปรับรสชาติ และตำแหน่งสินค้า เป็นเครื่องดื่มสำหรับคนทำงานรุ่นใหม่ ภายใต้คอนเซปต์ ใส่สุดแรง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนทำงานรุ่นใหม่ ซึ่งปีนี้จัดสรรงบกว่า 100 ล้านบาททำการตลาดเชิงรุก หวังช่วงชิงตำแหน่งเบอร์ 2 ของตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง หรือมีส่วนแบ่งการตลาด 20% ภายใน 5 ปี จากผู้เล่นรายหลัก 3 ราย คือ เอ็ม-150 กระทิงแดง และคาราบาวแดง